วันนี้ ( 7 พ.ย. 63 )นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงกรณีพบเด็กป่วย ด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี หรือRSV ว่า เป็นโรคที่มักพบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โรคนี้ติดต่อได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ โดยไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก และจากการสูดหายใจเอาเชื้อที่อยู่ในอากาศ ในรูปละอองฝอยจากการไอ จามของผู้ป่วย มีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา 

ในช่วงหนาว มักจะพบเด็กเป็นไข้หวัด ซึ่งไข้หวัดจะมีเชื้อหลายตัว โดยหลักๆ จะมี 2 ตัว คือ เชื้อไข้หวัดใหญ่ และเชื้อ RSV โดยทั่วไปมักพบเชื้อไวรัส RSV ในเด็กเล็ก ประมาณร้อยละ 30 ส่วนข้อมูลทั่วประเทศของการระบาดของเชื้อ RSV ทั้งประเทศ ไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมามากนัก ส่วนที่พบว่า มีเด็กติดเชื้อ RSV เพิ่มขึ้นนั้น อาจเป็นเพราะปัจจุบันสถานพยาบาลมีการตรวจหาเชื้อ RSV มากขึ้น

อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุด้วยว่า โรค RSV ยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ และไม่มีวัคซีนป้องกัน หากเด็กมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อและพาไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป

ด้าน รองศาสตราจารย์(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ อธิบายว่า ไวรัสRSV เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจคล้ายคลึงกับโรคโควิด-19 แต่โควิด-19 ไม่ค่อยเกิดขึ้นในเด็ก เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ และทั้ง 2 โรคนี้ยังไม่มียารักษาเฉพาะ และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ซึ่งการรักษาจะรักษาตามอาการ นอกจากนี้อาการไวรัสRSVในเด็ก จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา เริ่มจากการมีน้ำมูก ไอ จาม มีเสมหะจำนวนมาก หายใจเหนื่อยหอบ หายใจมีเสียงหวีด  หากมีอาการหอบเหนื่อย ผู้ปกครองควรรีบพาบุตรหลานไปพบแพทย์ทันที

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline