รีเซต

"จุดความร้อนไทย" ทะลุ 500 จุด เปิดรายชื่อจังหวัดที่พบมากสุด?

"จุดความร้อนไทย" ทะลุ 500 จุด เปิดรายชื่อจังหวัดที่พบมากสุด?
TNN ช่อง16
13 มีนาคม 2566 ( 12:09 )
51
"จุดความร้อนไทย" ทะลุ 500 จุด เปิดรายชื่อจังหวัดที่พบมากสุด?

GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 12 มีนาคม 2566 ไทยพบจุดความร้อน จำนวน 529 จุด ในขณะที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ยังนำโด่งจำนวน 1,655 จุด สปป.ลาว 1,588 จุด กัมพูชา 1,103 จุด เวียดนาม 317 จุด และมาเลเซีย 47 จุด


สำหรับจุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 137 จุด, พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 136 จุด, พื้นที่เกษตร 107 จุด, พื้นที่เขต สปก. 99 จุด, พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 48 จุด, และพื้นที่ริมทางหลวง 2 จุด ในส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ ชัยภูมิ 53 จุด 


ส่วนค่าฝุ่น PM2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับสีแดง แสดงให้เห็นว่าเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด และมีผลต่อสุขภาพ อาทิ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง แพร่ เป็นต้น ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร อยู่ระดับปานกลาง 


สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น


ภาพจาก GISTDA

 



พร้อมกันนี้ ยังได้เผยข้อมูลจากดาวเทียมฮิมาวาริล่าสุด เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (13 มีนาคม 2566) พบค่าฝุ่น PM2.5 ยังคงเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะ เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตาก อุตรดิตถ์ เป็นต้น ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ในขณะที่หลายพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นกว่าช่วงเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงหลายพื้นที่ของภาคกลางและ กทม. ส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศและอิทธิพลของกระแสลมที่พัดจากทิศตะวันออกไปทางฝั่งตะวันตกนั่นเอง

ข้อมูลที่ได้จากดาวเทียมฮิมาวาริที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะแสดงผลเฉพาะค่าฝุ่น PM2.5 เท่านั้น สำหรับแอปพลิเคชันทั่วไปที่มีการรายงานดัชนีคุณภาพอากาศแบบ AQI จะเป็นการรายงานคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิดด้วยกันคือ

1.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM 10)

2.ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5)

3.ก๊าซโอโซน (O3)

4.ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซต์ (CO)

5.ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซต์ (NO2)

6.ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)

ตัวเลขที่สูงมากเป็นเพราะค่าระดับของก๊าซบางชนิดที่รวมอยู่ด้วย เช่น O3 NO2 SO2 เป็นต้น 

ทั้งนี้ ก่อนออกจากบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจที่อาจจะตามมา

อย่างไรก็ตาม รายละเอียดข้อมูลเฉพาะพื้นที่ท่านสามารถติดตามจากหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบโดยตรงได้ GISTDA ยังคงติดตามและรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำไปใช้บริหารจัดการในพื้นที่


ภาพจาก GISTDA

 





ที่มา GISTDA

ภาพจาก ผู้สื่อข่าวจังหวัดตราด / GISTDA

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง