รีเซต

โบรกเพิ่มเป้า MOSHI เป็น 60-62 บ. GPM สูง- กำไรเติบโตดี

โบรกเพิ่มเป้า MOSHI เป็น 60-62 บ. GPM สูง- กำไรเติบโตดี
ทันหุ้น
21 สิงหาคม 2566 ( 10:57 )
121
โบรกเพิ่มเป้า MOSHI เป็น 60-62 บ. GPM สูง- กำไรเติบโตดี

โบรกเกอร์ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย MOSHI หลังประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา บล.ดาโอเพิ่มเป้าจาก 50.00 บาท เป็น 60.00 บาท เพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” บล.กสิกรไทยเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" โดยเพิ่มราคาเหมาะสมเป็น 62.60 บาท จาก 55.30 บาท

 

บล.ดาโอ คาด GPM ขยายตัวได้ต่อจากสัดส่วนสินค้านำเข้าที่เพิ่มขึ้น

บล.ดาโอปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" MOSHI และ roll-over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2024E ที่ 60.00 บาท (จากเดิมที่ 50.00 บาท) บล.ดาโอมีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ที่ผ่านมา โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1)บริษัทคงเป้ารายได้ 2023E โตไม่น้อยกว่า +20% จากการขยายสาขา และ SSSG ที่ยังเห็นเป็นบวก 2) GPM รวมทั้งปี 2023E ที่มั่นใจทำได้ไม่ต่ำกว่าใน 1H23 ที่ 52.9% หลักๆจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าทั้งค้าปลีกและค้าส่ง รวมถึงการเพิ่มยอดขายสินค้า high margin และสัดสวนยอดขายของร้าน Moshi Moshi ที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขา 3) บริษัทยังคงเป้าหมายการขยายสาขาใน 2023E ไม่ต่ำกว่า 20 สาขา ณ สิ้น 1H23 บริษัทมีสาขารวมทั้งค้าปลีกและค้าส่งทั้งหมด 114 สาขา

 

ปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี 2023E/24E +4%/+2% อยู่ที่ 390 และ 494 ล้านบาท เติบโต +54%/+27% (จากเดิมที่ 376/483 ล้านบาท) จาก GPM ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากกลับมา sourcing สินค้าจากในต่างประเทศได้มากขึ้น และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ทรงตัวในระดับต่ำ แม้รวมค่าใช้จ่าย The Ok station เข้ามาและมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

 

ราคาหุ้น outperform SET ที่ + 15% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจากผลการดำเนินงานที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด โดย บล.ดาโอมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันรับรู้การเติบโตของกำไรในปี 2023E ไปแล้ว ทำให้ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ"จากคาดอัตราการเติบโตของกำไรบริษัทที่สูงในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้าคิดเป็น 2022-24E CAGR ที่ +40%

 

Event: 2Q23 analyst meeting

บล.ดาโอมีมุมมองเป็นบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 18 ส.ค. 2023 มีประเด็นสำคัญดังนี้ 1) บริษัทคงเป้ารายได้ 2023E โตไม่น้อยกว่า +20% จากการขยายสาขา และ SSSG ที่ยังเห็นเป็นบวก โดย QTD SSSG ใน 3Q23E ยังขยายตัวได้ราว +10% แม้เป็น low season ของธุรกิจค้าปลีก

 

2) GPM รวมทั้งปี 2023E ที่มั่นใจทำได้ไม่ต่ำกว่าใน 1H23 ที่ 52.9% แม้รวมยอดขาย The Ok station เข้ามาเต็มไตรมาส หลักๆจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าทั้งค้าปลีกและค้าส่ง โดยจะเริ่มมีการนำเข้าสินค้าสำหรับ The ok station ใน 4Q23E (ปัจจุบันเป็นการ sourcing จากในประเทศทั้งหมด) รวมถึงการเพิ่มยอดขายสินค้า high margin และสัดส่วนยอดขายของร้าน Moshi Moshi ที่เพิ่มขึ้นตามการขยายสาขา

 

3) บริษัทยังคงเป้าหมายการขยายสาขาใน 2023E ไม่ต่ำกว่า 20 สาขา (ไม่รวมร้าน Garlic (shop in shop) คาดขยายเพิ่ม 2 สาขาใน 2H23E) โดยเปิดแล้วใน 1H23 จำนวน 7 สาขา ทำให้ปัจจุบัน ณ สิ้น 1H23 ร้าน Moshi Moshi มีทั้งหมด 112 สาขา ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา ร้านค้าส่ง The Ok station 1 สาขา

 

ปรับประมาณการกำไรสุทธิ 2023E/24E ขึ้น +4%/+2% อยู่ที่ 390 และ 494 ล้านบาท เติบโต +54%/+27% บล.ดาโอปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี 2023E/24E +4%/+2% อยู่ที่ 390 และ 494 ล้านบาท เติบโต +54%/+27% (จากเดิมที่ 376/483 ล้านบาท) จาก GPM ที่ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากกลับมา sourcing สินค้าจากในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าสัดส่วนสินค้านำเข้าในปี 2023E ที่มากกว่า 55%สำหรับร้านค้าปลีก Moshi Moshi รวมไปถึงการปรับ sourcing strategy ของ The OK station จากต่างประเทศมากขึ้นเพื่อเพิ่ม gross margin ปัจจุบัน The OK station มี GPM อยู่ที่ระดับ 20% และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ทรงตัวในระดับต่ำ แม้รวมค่าใช้จ่าย The Ok station เข้ามาและมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังคงเป้าขยายสาขาใน 2023E ไม่ต่ำกว่า 20 สาขา

 

Valuation/Catalyst/Risk

บล.ดาโอปรับคำแนะนำขึ้นเป็น "ซื้อ" จากเดิม "ถือ" MOSHI และ roll-over ไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2024E ที่ 60.00 บาท (จากเดิมปี 2023E ที่ 50.00 บาท) มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันมีการรับรู้การเติบโตของผลการดำเนินงานปี 2023E ไปแล้ว บล.ดาโอยังคงมองการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2024E โดยราคาเป้าหมายคิดเป็น 2024E PER ที่ 36 เท่า (หรือเท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง)

บล.กสิกรไทย ชี้ทิศทางธุรกิจดีขึ้นจากความสำเร็จในการเปิดร้านแบรนด์ใหม่

บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกจากร้านแนวคิดใหม่อย่าง Garlic ที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. เพื่อขยายฐานลูกค้าด้วยสัดส่วน GPM ที่สูงขึ้น

คาดกำไรครึ่งหลังของปี 2566 จะเพิ่มขึ้น YoY และ HoH จากส่วนแบ่งกำไรของอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ส่วนแบ่งกำไรจาก OST และเป็นช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 4 / 2566

เพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" โดยเพิ่ม TP เป็น 62.60 บาท จาก 55.30 บาท เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรและการปรับปีฐานการประเมินมูลค่าไปเป็นสิ้นปี 2567

 

Investment Highlights

การเปิดร้านค้าแนวคิดใหม่ บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวก หลังประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการตอบรับที่ดีต่อร้านค้าแนวคิดใหม่ที่เปิดตัว "Garlic" ที่ศูนย์การค้า ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 2566 สำหรับการเปิดดำเนินงานช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และสัดส่วนยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ซึ่งน่าจะคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดของการขยายเครือข่ายภายในประเทศ เนื่องจาก MOSHI มีสาขามากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ ร้านแบรนด์น้องใหม่อย่าง Garlic น่าจะช่วยขยายฐานลูกค้าของ MOSHI ไปยังกลุ่มสินค้าไลฟสไตล์สำหรับทั้งวัยรุ่นทั้งหญิงและชาย เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าของ Moshi Moshi ที่จับกลุ่มวัยรุ่นหญิงเท่านั้น

 

ดังนั้น MOSHI จึงวางแผนที่จะเปิดตัวร้านแบรนด์ใหม่ Garlic ในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วยอีก 2 สาขา และผู้บริหารตั้งเป้าที่จะเปิดร้านปีละ 8 - 10 สาขาในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นจาก Garlic จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของยอดขายและการขยายตัวของ GPM เนื่องจาก 80% ของสัดส่วนผลิตภัณฑ์เป็นสินค้านำเข้า ซึ่งมี GPM ที่ค่อนข้างสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่มาจากในประเทศ

 

คอลเลกชั่นพิเศษใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาส 4/ 2566ด้วยความสำเร็จของผลิตภัณฑ์คอลเลกชันพิเศษจากดีไซน์เนอร์ไทยในไตรมาส 2/2566 ทำให้ MOSHI สามารถคงระดับอัตรากำไรขั้นต้นจากยอดขายของ Moshi Moshi (ไม่รวมสัดส่วนของ The OK Station)

 

ดังนั้น MOSHI จึงวางแผนที่จะออกสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษจากกลุ่มดีไซน์เนอร์ไทยดังกล่าวอีกครั้งในไตรมาส 4/2566 บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกต่อการตัดสินใจนี้ในการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จล่าสุดโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่จำกัด เนื่องจากสามารถลดขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สั้นลงได้ MOSHI ยังคงเปิดสาขา "Moshi" ใหม่จำนวน 20 สาขาในปี 2566 โดย 7 สาขาแรกเปิดในครึ่งปีแรกของปี 2566 ส่วนสาขาใหม่ 13-14 สาขา จะเปิดในครึ่งหลังของปี 2566 ตามแผ่น ร้านค้า 2 แห่งที่จะเปิดในครึ่งหลังของปี 2566 จะอยู่ในรูปแบบอาคารพาณิชย์ ซึ่งจะเป็นต้นแบบสำหรับรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ในอนาคต

 

SSSG เป็นบวกต่อเนื่องในเดือนก.ค. -ส.ค. ในเชิง QTD การเติบโตยอดขายสาขาเดิม(SSSG) ยังคงเป็นบวก แต่ชะลอตัวลงเหลือประมาณ 10% จาก 19.9% ในไตรมาส 2/2566 จากผลของฐานที่สูงขึ้นในปีที่แล้วตั้งแต่เปิดประเทศในเดือนมิ.ย. 2566 แม้ว่าปกติไตรมาส 3 จะเป็นช่วงโลว์ซีชั่นสำหรับยอดขายของ MOSHI แต่คาดว่ายอดขายและกำไรของ MOSHI จะสามารถเติบโต YoY และ QoQโดยได้แรงหนุนจาก 1) ฐานที่ยังต่ำในปีที่แล้ว 2) ยอดขายและกำไรจาก The OK Station เต็มไตรมาส 3) อัตรากำไรขั้นต้นที่ค่อยๆ ดีขึ้น และยังคาดว่าไตรมาส 4/2566 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี

 

ปรับประมาณการกำไรปี 2566-2568 บล.กสิกรไทยปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลง 6.6% เพื่อสะท้อนสมมติฐานของบล.กสิกรไทยเกี่ยวกับยอดขายและอัตรากำไรของ The OK station ที่ปรับตัวดีขึ้นแต่มาช้ากว่าที่คาดไว้เล็กน้อย เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567-2568 ขึ้น 2.0% และ 1.2 ตามลำดับ โดยรวมแผนของการขยายสาขา Garlic ที่เปิดใหม่

 

Valuation and Recommendation

บล.กสิกรไทยปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ MOSHI เป็น "ซื้อ"จาก "ถือ" โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 62.60 บาท อิงวิธีคิดลดเงินสด (DCF) บล.กสิกรไทยปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 2567 จากกลางปี 2567 ณ ระดับปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 2567 ที่ 29.7 เท่า ซึ่ง +0.6SD สูงกว่าค่าเฉลี่ย PER ล่วงหน้าในอดีตของกลุ่มพาณิชย์

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง