CK ลมเปลี่ยนทิศ
ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย จำกัด สแกน หุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้บริหารเชื่อว่าจะเป็นผู้ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกและม่วงตอนใต้ ดังนั้น คาดยอด backlog ของ CK จะเพิ่มขึ้นจาก 2.84 หมื่นลบ. ในไตรมาส 2/2564 เป็น 234,000 ลบ. ในครึ่งแรกปี 2565 แต่ยังต่ำกว่าเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ที่ 341,000 ลบ. แม้ลดประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย แต่ยังแนะนำ “ซื้อ” จาก 1) ยอด backlog ที่เติบโตสดสใสและ 2) holding discount ที่ลดลงหากเพิ่มการจ่ายปันผล
ประเด็นสำคัญ การประชุมนักวิเคราะห์ (20 ส.ค.2564 ) หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ได้แก่ 1) CK โดนสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างทั้งหมดจากรัฐบาลระหว่างวันที่ 28 มิ.ย. ถึง 27 ก.ค. 2) CK สามารถควบคุมปัญหาเรื่องแรงงานขาดแคลนได้ 3) ผู้บริหารคาดว่าจะได้เซ็นสัญญาโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ) ในไตรมาส 4/2564 และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบางในไตรมาส 1/2565 และ 4) ยอด backlog ปัจจุบันของบริษัทฯ อยู่ที่ 2.84 หมื่นลบ. รวมยอด backlog เพิ่มเติมจากงานใหม่ในไตรมาส 2/2564 มูลค่า 5.2 พันลบ.
**อัพเดทโครงการ
คาดการณ์โครงการรถไฟรางคู่ (เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญา 2 และ 3) จะเพิ่มมูลค่าให้กับยอด backlog ของ CK ในไตรมาส 4/2564 อีก 2.31 หมื่นลบ. ด้วยระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้าจะเพิ่มมูลค่าให้กับยอด backlog อีก 8.5 หมื่นลบ. ในไตรมาส 1/2565 ด้วยระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี โครงการ mega project อื่นๆ ที่จะทยอยออกมาประมูลต่อ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม ฝั่งตะวันตกและสายสีม่วงตอนใต้ คาดว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกในช่วงปลายไตรมาส 4/2564 ด้วยมูลค่าก่อสร้างรวมที่ 127,000 ลบ. และระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี
ขณะเดียวกัน คาดว่าโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีม่วงตอนใต้จะประมูลแล้วเสร็จอีกครั้งในช่วงต้นไตรมาส 4/2564 หลังเลื่อนออกไปในช่วงที่ผ่านมาด้วยมูลค่าก่อสร้างรวมที่ 7.87 หมื่นลบ. และระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยยังเชื่อว่า CK มีโอกาสมากที่จะเป็นผู้ชนะประมูลทั้ง 2 โครงการซึ่งจะช่วยเพิ่มยอด backlog ของ CK เป็น 234,100 ลบ. เทียบกับเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ที่ 341,700 ลบ.
**ปรับประมาณการกำไร
ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2564 ของ CK ลง 38.9% เพื่อสะท้อนผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ที่ออกมาน้อยกว่าคาด การยุติงานก่อสร้างตลอดทั้งเดือน ก.ค. และการเลื่อนการเซ็นสัญญาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง คาดว่ากำไรปกติช่วงครึ่งหลังของปีนี้ของ CK จะอยู่ที่ 469,700 ลบ. เพิ่มขึ้น 7.2% YoY และ 1332% HoH ขณะเดียวกัน ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2565 ขึ้น 0.8% แต่ลดของปี 2566 ลง 9.8% จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อให้สอดคล้องกับตัวเลขหนี้สินที่แท้จริงของ CK
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ราคาหุ้น CK ปรับเพิ่มขึ้น 18.1% YTD เทียบกับของ SET ที่เพิ่มขึ้น 13.7% ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย P/E ปี 2565 ที่ 21.2 เท่า และ P/BV ปี 2565 ที่ 1.25 เท่า ซึ่งเท่ากับ 0.614 SD และ 0.89 SD ต่ากว่าระดับเฉลี่ย 5 ปี
**เปิด 3 เหตุผลคงแนะซื้อ
แนะนำ “ซื้อ” CK ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ปี 2565 อิงด้วยวิธี SOTP ที่ 29.79 บาท ลดลง 0.5% จากราคาเป้าหมายเดิมที่ 29.94 บาท ปัจจัยหนุนราคาหุ้น ได้แก่ 1) การชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตกและส่วนต่อขยายสายสีม่วงตอนใต้ 2) โครงการ mega project ของภาคเอกชนกลับมาก่อสร้างอีกครั้งหลังสิ้นสุดวิกฤติโควิด-19 และ 3) การตัดสินใจของ CK ที่จะส่งต่อเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทในเครือให้กับผู้ถือหุ้นมากขึ้น
Holding company discount ฝ่ายวิจัยได้เปรียบเทียบด้านมูลค่าระหว่าง 1) มูลค่าตลาดที่เหมาะสมของบริษัทในเครือของ CK ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ BEM TTW และ CKP และ 2) ราคาตลาดของ CK นับตั้งแต่ปี 2559 และพบว่าราคาหุ้น CK ซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตลาดที่เหมาะสมที่รวมมูลค่าบริษัทในเครืออยู่ 27.5% และเชื่อว่า holding company discount จะยังอยู่ในระดับสูงหาก 1) ธุรกิจก่อสร้างหลักของ CK รับรู้ผลขาดทุนและ 2) นโยบายส่งต่อเงินปันผลจากบริษัทในเครือที่ราว 74%/69%/69% ไปให้ผู้ถือหุ้นในปี 2560/61/62 ของ CK