'กรณ์' ตั้งตัวแทนพรรคกล้าที่ขอนแก่น หวังปักธง ส.ส. ขอช่วยยกระดับชีวิตเกษตรกร

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดขอนแก่น ที่บ้านท่าศาลา อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยมีประชาชนและสมาชิกพรรคกล้าให้การต้อนรับ

การจัดประชุมครั้งนี้มีมติให้นายชาญศักดิ์ จันทร์ภิรมย์ เป็นตัวแทนของพรรค ซึ่งเป็นคนพื้นที่ อ.มัญจาคีรี โดยได้พบปะและฝากตัวกับประชาชนพี่น้อง ชาวบ้านท่าศาลา และตำบลใกล้เคียง ขอเข้ามาช่วยเหลือประชาชนให้ยิ้มได้ โดยเฉพาะเกษตรกรที่ยังเป็นหนี้อยู่

สำหรับนายชาญศักดิ์ ตัวแทนพรรคกล้า อดีตผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่งใน สปป.ลาว ถือเป็นการลงการเมืองครั้งแรก โดยมีการนำเสนอนโยบาย พร้อมวิสัยทัศน์ที่เกี่ยวกับพื้นที่ เน้นเรื่องของการเกษตร

นายกรณ์กล่าวว่า จำนวนเขตยังไม่ได้สรุป แต่ให้รู้ว่าขอนแก่นมีพรรคกล้าลงมาปักหมุดแน่นอน วันนี้เราตระหนักดีว่าชาวขอนแก่นเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ และยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาน้ำท่วม ซึ่งขอเป็นกำลังใจให้ชาวขอนแก่น และบอกกับพี่น้องที่นี่ ในทุกอำเภอทุกเขตว่าพรรคกล้าอยู่ที่ขอนแก่น พร้อมจะช่วยเหลือ และวันนี้มาเพื่อที่จะสร้างพรรคให้เข้มแข็งในขอนแก่น รวมทั้งจังหวัดอื่นๆ ในพื้นที่ภาคอีสานเพื่อยืนอยู่เคียงข้างต่อไป

“การแข่งขันก็มีแพ้ มีชนะ เอาว่าเราตั้งใจที่จะส่งผู้สมัคร ตั้งใจที่จะปักหมุดมีผู้แทนในขอนแก่นให้ได้ ผมเองมาขอนแก่นบ่อยมาก ทั้งในแง่ของความคุ้นเคย ความสัมพันธ์ที่มีกับพี่น้องที่สะสมมายาวนาน เราตั้งใจเป็นพรรคการเมืองที่จะดูแลพี่น้องคนไทย ซึ่งในขอนแก่นเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษา ต้องถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ของพรรคกล้าอีกจุดหนึ่ง

“เรื่องปากท้องตอนนี้ถือว่า ที่ผ่านมาประชาชนเสียโอกาส โดยเฉพาะคนตัวเล็กที่เสียโอกาสมาโดยตลอด ทั้งการสร้างเนื้อสร้างตัว การทำมาหากิน ซึ่งปัญหานี้พบมาตั้งแต่ก่อนช่วงการระบาดโควิด-19 แล้ว ความเชี่ยวชาญที่มีการสะสมไว้ในพรรคกล้า เรามุ่งตอบโจทย์การสร้างโอกาสการทำมาหากินให้กับคนไทยทั้งประเทศโดยเฉพาะพี่น้องในอีสานที่โดยส่วนใหญ่ยังมีอาชีพเป็นเกษตรกร” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์กล่าวว่า ฉะนั้น ยุทธศาสตร์และนโยบายทางการเกษตรคือทำอย่างไรให้นโยบายที่เกี่ยวกับการเมืองในทางเกษตรไม่ใช่แค่เรื่องของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เหมือนกับหมุนเวียนอยู่ที่เดิม เพราะประเด็นการสร้างความมั่งคั่ง หรือยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวอีสานให้ขึ้นมาอยู่ในระดับกลางนั้นยังไม่เคยมีใครเสนอ