ทองคำอ่อนแรงชั่วคราว ท่ามกลางวิกฤตตะวันออกกลาง จับตาแนวรับ 3,355 ดอลลาร์

ราคาทองโลกปรับตัวขึ้น 1.93 ดอลลาร์ จากการที่ทาง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวว่า อิหร่านจะต้องชดใช้อย่างสาสมจากการยิงขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลโซโรกา ในเมืองเบเออร์เชบา ทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งอิหร่านอ้างว่าเป็นการโจมตีฐานทัพและศูนย์ข่าวกรองทางทหารของอิสราเอล 

ในขณะที่ปธน.สี จิ้นผิง เรียกร้องให้ชาติมหาอำนาจเข้ามามีบทบาทในการลดความขัดแย้งครั้งนี้ และปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน เรียกร้องให้สหรัฐฯ หลีกเลี่ยงการโจมตีอิหร่าน เนื่องจากจะกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาค ส่วนทางฝั่ง แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เชื่อว่ายังคงมีโอกาสสำหรับการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน และทรัมป์จะทำการตัดสินใจว่าจะเปิดฉากโจมตีอิหร่านหรือไม่ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า 

อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 4.25% โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนส.ค. และปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในไตรมาส 4/2568ทางด้านกองทุน SPDR ยังถือทองคำเท่าเดิม

เมื่อคืนราคาทองโลกไต่ระดับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 3,375 ดอลลาร์ และมีการปรับฐานลง จึงประเมินว่าราคาทองโลกอาจมีการย่อตัวระยะสั้น โดยมีแนวรับที่ระดับราคา 3,355 ดอลลาร์

ติดตามการแถลงของประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น และเวลา 19.30 น. สหรัฐฯ มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีการผลิตเฟดฟิลาเดลเฟีย (มิ.ย.) เทียบรายเดือน

ราคาทองโลกยังไม่ผ่านแนวต้านที่ 3,375ดอลลาร์ จึงประเมินว่าราคาทองยังคงลดระดับลงต่อเนื่อง แนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับรอเข้าซื้อจากแนวรับที่ 3,355 ดอลลาร์ โดยมีเป้าทำกำไรที่ 3,375 ดอลลาร์ และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 3,330 ดอลลาร์ลงไป

ทองคำในประเทศยังคงแกว่งตัวจากการที่ค่าเงินบาทมีความผันผวน สืบเนื่องมาจากปัจจัยภายในประเทศ จึงแนะนำใช้กลยุทธ์เชิงรับ รอเข้าซื้อจากแนวรับที่ 52,000 บาท โดยมีเป้าทำกำไรที่ 52,500 บาท และตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับที่ 51,700 บาทลงไป