‘สารัชถ์’บิ๊กล็อตต่างชาติ มั่นใจธุรกิจไตรมาส3แจ่ม

#GULF #ทันหุ้น - GULF ลั่นงบไตรมาส 3/2568 โต QoQ-YoY เหตุรับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้า Jackson หลังค่าความพร้อมจ่ายขยับขึ้น บุ๊กปันผลระหว่างกาล KBANK-ผลดำเนินงาน ADVANC ดีต่อ เผย ไทยแลนด์โฟกัส กองทุนต่างชาติแห่สนใจเพียบ เหตุธุรกิจแกร่ง “โครงสร้างพื้นฐาน-พลังงาน-ดิจิทัล-โทรคมนาคม” คาดผู้ถือหุ้นใหญ่ “สารัชถ์ รัตนาวะดี” ขายหุ้นบิ๊กล็อต 62 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 2.91 พันล้านบาท ให้กองทุนต่างประเทศ
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 3/2568 เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) เนื่องจาก มีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson ในสหรัฐ ที่ได้รับการปรับขึ้นค่าความพร้อมจ่ายเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์
ดังนั้นทำให้ GULF มีส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นมาก และบริษัทจะมีการรับรู้เงินปันผลของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ที่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่หุ้นละ 2 บาท รวมถึงผลดำเนินงานของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังรับรู้รายได้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ และธุรกิจคลาวด์เริ่มทยอยรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว ฯลฯ
@กองทุนต่างชาติสนใจ
ทั้งนี้จากที่บริษัทได้เข้าร่วมงานไทยแลนด์โฟกัส 2025 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกองทุนต่างประเทศหลายแห่งเข้ามาร่วมประชุมแบบ One-on-one และ Group Meetings เนื่องจากประกอบธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน ธุรกิจดิจิทัล (ดาต้าเซ็นเตอร์ คลาวด์ ) ธุรกิจให้บริการทางด้านโทรคมนาคม
ขณะที่บริษัทมีผลดำเนินงานรเติบโตต่อเนื่องทุกปีนี้ เพราะมีโครงการโรงไฟฟ้าในมือที่จะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ถึงปี 2576 และอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มทั้งในประเทศและต่างประเทศ และจากที่สหรัฐมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าที่สูงนั้น บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเข้าไปลงทุนเพิ่ม นอกจากนี้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ และนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ
@คาด“สารัชถ์”ขายให้กองทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5 ก.ย.68) พบการซื้อขายบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) หุ้น GULF จำนวน 1 รายการ จำนวน 62 ล้านหุ้น เฉลี่ยราคาหุ้นละ 47 บาท มูลค่า 2,914 ล้านบาท ซึ่งจากรายการข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระบุว่า รายการบิ๊กล็อตดังกล่าวเป็นการขายของ นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ GULF
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า GULF ตั้งเป้าพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาด 3,500 เมกะวัตต์ ในมือให้เสร็จสิ้นภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยบริษัทมองว่าโอกาสในการเปิดประมูลพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศรอบต่อไปน่าจะมีหลังปี 2573 เนื่องจากข้อจำกัดด้านโครงข่ายไฟฟ้า จนกว่าจะถึงตอนนั้น GULF จะมองหาโอกาสในการทำ M&A ในสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียนในประเทศจากบริษัทอื่นหรือการเป็นพันธมิตร
@กำไรครึ่งปีหลังโต
สำหรับแนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2568 แม้ว่าฝ่ายวิจัยจะเห็นรายได้จากเงินปันผลจาก KBANK ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในครึ่งหลังปี 2568 (การจ่ายปันผลระหว่างกาล) เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2568 (การจ่ายปันผลทั้งปี) แต่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าผลสนับสนุนจากแหล่งรายได้อื่นจะชดเชยได้เต็มที่ จึงคาดว่าปัจจัยหนุนกำไรในครึ่งหลัง 2568 ได้แก่ การปรับค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Payment) ของ Jackson ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐ (1.2 พันเมกะวัตต์ สัดส่วนถือหุ้น 49%) ขึ้น 9 เท่าเป็น 272 ดอลลาร์ต่อเมกะวัตต์ต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มส่วนแบ่งกำไรให้กับ GULF ราว 600 ล้านบาท ในครึ่งหลังปี 2568 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกปี 2568
รวมถึงการทยอยดำเนินงานของศูนย์ข้อมูล (ดาต้าเซ็นเตอร์) ขนาด 25 เมกะวัตต์ ที่ GULF ถือหุ้น 40% ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 150 ล้านบาท ในครึ่งหลังปี 2568, กำไรของ ADVANC เติบโตในครึ่งหลังปี 2568 จากการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านคลื่นความถี่ 400 ล้านบาท และการ COD ของโซลาร์ฟาร์มขนาด 600 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4/2568
@ฐานะแกร่ง
ทั้งนี้ GULF อยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งในการระดมทุนเพื่อการเติบโตสำหรับโครงการในอนาคตและโครงการที่มีศักยภาพ มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 0.9 เท่า ณ ไตรมาส 2/2568 ซึ่งหมายความว่าสามารถกู้ยืมได้สูงสุด 5 พันล้านดอลลาร์จนกว่า D/E จะกลับไปที่ 2 เท่า ซึ่งเป็นระดับก่อนการควบรวม บริษัทยังสามารถออกหุ้นกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 1.8-2% ในรอบล่าสุด ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าจะช่วยลดต้นทุนเงินทุนเฉลี่ยของ GULF ในอนาคต ดังนั้นจึงยังคงแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 61 บาทต่อหุ้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงจากอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของกำลังการผลิดที่ 7% และ CAGR ของการเติบโตของกำไร ที่ 17% ในช่วงปี 2568- 2570 ราคาเป้าหมายของเราอิงวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) ใช้ WACC ที่ 4.4%
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
