รีเซต

เกิดอะไร! "ซัมซุง" กำไรวูบ 39% คู่แข่งแซงตลาดชิป AI l การตลาดเงินล้าน

เกิดอะไร! "ซัมซุง" กำไรวูบ 39% คู่แข่งแซงตลาดชิป AI l การตลาดเงินล้าน
TNN ช่อง16
8 กรกฎาคม 2568 ( 11:53 )
7

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ เตรียมประกาศผลประกอบการเบื้องต้นประจำไตรมาส 2 ซึ่งคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลงถึง ร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากความล่าช้าในการจัดส่งชิปหน่วยความจำขั้นสูงให้แก่ Nvidia ผู้นำตลาดชิปปัญญาประดิษฐ์ จากข้อมูลของ LSEG SmartEstimate คาดว่าซัมซุงจะมีกำไรจากการดำเนินงานในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนที่ระดับ 6.3 ล้านล้านวอน หรือราว 4.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ไตรมาส สะท้อนถึงแรงกดดันต่อรายได้ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์มองว่า จุดอ่อนของซัมซุงในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ความล่าช้าในการพัฒนาชิปความเร็วสูงแบบ HBM (High-Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในศูนย์ข้อมูลด้าน AI ขณะที่คู่แข่งรายสำคัญอย่าง SK Hynix และ Micron สามารถผลิตและส่งมอบชิปรุ่นใหม่ได้ทันต่อความต้องการของตลาด

แม้ซัมซุงได้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคมว่าจะสามารถบรรลุความคืบหน้าสำคัญในการพัฒนาชิปรุ่น HBM 3E แบบ 12 ชั้นได้ ภายในเดือนมิถุนายน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันว่า ชิปดังกล่าวผ่านกระบวนการรับรองจาก Nvidia แล้วหรือไม่ ส่งผลให้ยอดขาย HBM ของซัมซุงยังทรงตัว ขณะที่การส่งออกไปยังจีนก็ยังถูกจำกัดจากนโยบายของสหรัฐฯ

รยู ยองโฮ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก NH Investment & Securities ระบุว่า รายได้จากชิป HBM ของซัมซุงในไตรมาสที่ 2 มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านการส่งออกและความล่าช้าในการเริ่มส่งมอบชิปรุ่นใหม่ให้กับ Nvidia โดยคาดว่าการจัดส่งชิปรุ่นนี้จะไม่ส่งผลในเชิงรายได้อย่างมีนัยสำคัญภายในปีนี้

อย่างไรก็ดี ซัมซุงได้เริ่มจัดส่งชิปรุ่นดังกล่าวให้กับบริษัท AMD แล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญท่ามกลางการแข่งขันในตลาด AI ที่ร้อนแรง

ในฝั่งธุรกิจสมาร์ตโฟน ซัมซุงยังคงมียอดขายที่มั่นคง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการสินค้าในสหรัฐฯ ก่อนที่อาจมีการบังคับใช้ภาษีนำเข้าใหม่ โดยเฉพาะข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการเก็บภาษีร้อยละ 25 สำหรับสมาร์ทโฟนที่ผลิตนอกสหรัฐฯ รวมถึงเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคมสำหรับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ต่อคู่ค้าหลายประเทศ

นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกใบอนุญาตที่เคยอนุมัติให้ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ รวมถึงซัมซุง สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในจีน ซึ่งอาจเพิ่มความไม่แน่นอนทางธุรกิจให้กับบริษัทมากยิ่งขึ้น

แม้ซัมซุงยังคงเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในปีนี้ หุ้นของซัมซุงกลับเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ โดยราคาหุ้นของซัมซุงเพิ่มขึ้นเพียงราวร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ที่ปรับขึ้นแล้วกว่า ร้อยละ 27.3 ในช่วงเวลาเดียวกัน 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง