จับตาประชุมกนง.วันนี้ชี้ทิศทางเงินบาท
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 29.95-30.05 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) จากความหวังว่า รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน อาจจะสามารถผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 1.9ล้านล้านดอลลาร์ได้ด้วยเสียงเพียงกึ่งหนึ่งในวุฒิสภาผ่านกระบวนการ Budget Reconciliation
นอกจากนี้ตลาดการเงินยังได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ อย่าง Amazon ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น โดย ในฝั่งสหรัฐฯ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น 1.4% ส่วนดัชนีหุ้นเทคฯ NASDAQ พุ่งขึ้นราว 1.6% ด้านฝั่งยุโรป ดัชนี stoxx50 ก็กลับมาปิดบวก 1.7%
สภาวะการเปิดรับความเสี่ยงของตลาด ก็ได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ เด้งขึ้นเล็กน้อย 2bps สู่ระดับ 1.10% ส่วนในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะกลับมาฟื้นตัวได้แข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะยุโรป หลังการแจกจ่ายวัคซีนในสหรัฐฯเริ่มเร่งตัวขึ้น สวนทางกับการแจกจ่ายวัคซีนที่ล่าช้าในยุโรป ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจสหรัฐฯ ก็อาจฟื้นตัวได้ดีกว่า หากรัฐบาลผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่สำเร็จ โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 91.2 จุด
สำหรับวันนี้ตลาดจะติดตามความคืบหน้าของกระบวนการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะใช้กระบวนการ Budget Reconcilation ซึ่งจะช่วยให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนใหญ่หรืออาจจะทั้งหมดผ่านได้ด้วยเสียงเพียงกึ่งหนึ่งในวุฒิสภา
ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจมีดังนี้ เริ่มจากในฝั่งเอเชีย เรามองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวเล็กน้อยในระยะสั้น จากมาตรการควบคุมการระบาด COVID-19 ในหลายพื้นที่ ทำให้ภาคการบริการอาจขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ โดย Caixin เดือนมกราคม ที่จะลดลงสู่ระดับ 55.8จุด จาก 56.3 ในเดือนก่อน (ดัชนีเกินระดับ 50จุด หมายถึงการขยายตัว)
เช่นเดียวกันกับในฝั่งสหรัฐฯ แม้ว่าโดยรวมภาคการผลิตและการบริการของสหรัฐฯยังอยู่ในภาวะขยายตัวต่อเนื่องทว่าผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จะกดดันให้ภาคการบริการเริ่มชะลอตัวลง สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการ โดย ISM เดือนมกราคม ที่จะลดลงสู่ระดับ 56.7จุด จาก 57.7 ในเดือนก่อน
และที่สำคัญในวันนี้ ตลาดจะจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง. ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเราคาดว่า ธปท. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจชะลอลงมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีน้ำหนักมากพอให้ ธปท. จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมครั้งนี้
ในส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่าเงินดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าขึ้น แต่เรามองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปมากเนื่องจากผู้ส่งออกต่างรอขายเงินดอลลาร์ที่ระดับ 30.05-30.10บาทต่อดอลลาร์ ขณะเดียวกัน หากตลาดไม่ได้มีแนวโน้มปิดรับความเสี่ยงที่ชัดเจน ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็จะไม่ได้ไหลออกจากตลาดหุ้นมากนัก ทำให้ โดยรวมเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์ +/- 15 สตางค์ จนกว่าจะมีปัจจัยที่ทำให้ทิศทางของเงินดอลลาร์หรือฟันด์โฟลว์ชัดเจน
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE