รีเซต

จี้หาสาเหตุ! พบพะยูนตายกลางทะเลกระบี่ 2 วัน 3 ตัว

จี้หาสาเหตุ! พบพะยูนตายกลางทะเลกระบี่ 2 วัน 3 ตัว
TNN ช่อง16
18 มกราคม 2564 ( 10:02 )
128

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2564 เวลา 16.30 นาฬิกา นายทีฆาวุฒิ ศรีบุรินทร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวว่า พบพะยูนลอยตายทางด้านทิศเหนือและทางทิศตะวันออกของเกาะเหลากา ของแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ บริเวณหมู่เกาะห้อง บ้านท่าเลน หมู่ที่ 3 ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จึงสั่งการให้นายจำเป็น ผอมภัคดี หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานประจำเกาะห้อง พร้อมด้วยกำลังนำเรือตรวจการณ์ ออกตรวจค้นหาซากพะยูนที่ลอยตายจนพบ และได้นำเชือกผูกที่ตัวพะยูนไม่ทราบเพศ  และวัดความยาวจากหัวจรดหาง 3.10 เมตร น้ำหนักประมาณ  500 - 600 กิโลกรัม รอบลำตัวกว้าง 110 เซนติเมตร 


จากนั้นได้ประสานกับนายสมศักดิ์ เตบบุตร ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเกาะกวาง หมู่ที่ 3 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อนำซากพะยูนตัวดังกล่าวมาขึ้นฝั่งที่บริเวณหาดเกาะกวาง โดยมีนายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมด้วยประมงอำเภอเมืองกระบี่ เข้าตรวจสอบซากพะยูนที่ลอยตายในเบื้องต้น พบสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น ลำไส้ทะลักออกมาที่หน้าท้องคาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน จึงประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน จังหวัดตรัง มาพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป

  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเวลา 2 วันติดต่อกันคือ วันที่ 16 – 17 มกราคม 2564 ในรอบปีนี้ของเดือนแรก พบพะยูนลอยตายกลางทะเลจังหวัดกระบี่แล้วรวม 3 ตัว โดยตัวแรกพบที่บริเวณเกาะปาไล ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ และพบอีก 2 ตัว ที่บริเวณระหว่างเกาะนุ้ย หมู่ที่ 3 บ้านเจ๊ะหลี และเกาะปอ หมู่ที่ 4 บ้านเกาะปอ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา เกาะลันตา 1 ตัว และระหว่างด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของเกาะเหลากา บริเวณหมู่เกาะห้อง บ้านท่าเลน หมู่ที่ 3 ตำบลเขาทอง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ 1 ตัว 


ซึ่งการตายของพะยูนสร้างความสงสัยแก่ชาวประมงพื้นบ้านชายฝั่งในพื้นที่ 5 อำเภอคือ อำเภอเมืองกระบี่ อำเภอเหนือคลอง อำเภอคลองท่อม อำเภอเกาะลันตา และอำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะนักอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เป็นอย่างมากว่าพะยูนทั้ง 3 ตัวตายด้วยสาเหตุใด พร้อมทั้งได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุ เพื่อหาแนวทางในการป้องกันและร่วมกันอนุรักษ์พะยูนต่อไป


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง