CHAYOคุยเลื่อนหุ้นกู้วันนี้ ขอโอกาสชูธุรกิจมีอนาคต

#CHAYO #ทันหุ้น - บิ๊ก CHAYO ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น มูลค่า 3.9 พันล้านบาทวันนี้ วอนขอเลื่อนเหตุพยายามออกหุ้นกู้ชุดใหม่ทดแทนแล้วแต่ตลาดหุ้นกู้ไม่ดี ชี้มีสินทรัพย์เกินหนี้สินอยู่มาก แต่ต้องใช้ฝีมือบริหารให้จัดเก็บได้หมื่นล้านบาท ยกตัวอย่างเพิ่มมูลค่าที่ดินเกาะยาวใหญ่ ลั่นธุรกิจมีอนาคตพร้อมช่วยรัฐบาล-แบงก์เคลียร์หนี้เสียโดยไม่ต้องใช้ทุน

นายสุขสันต์  ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO เปิดเผยว่า วันนี้ (29 ก.ค.) บริษัทเตรียมพร้อมประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น เพื่อขอเลื่อนชำระคืนหุ้นกู้ทั้งหมด 5 รุ่น ออกไปอีก 2 ปี รวมมูลค่ากว่า 3,900 ล้านบาท โดยยืนยันเป็นการขอแต่เนิ่นๆ เพื่อเตรียมพร้อม เนื่องจากบริษัทพยายามออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อรีไฟแนนซ์ (Rollover) หุ้นกู้เดิมหลายครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากตลาดหุ้นกู้ที่ซบเซา ซึ่งหากได้รับการอนุมัติให้เลื่อนชำระ บริษัทจะจ่ายคืนเงินต้น 10% ของหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพิ่มดอกเบี้ยให้อีก 0.125% 

“ในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท แต่ได้เพียง 200 ล้านบาท และในการสำรวจความต้องการของนักลงทุนในเดือนเมษายนและมิถุนายน 2568 ก็คาดว่าจะได้เพียง 200-300 ล้านบาทเท่านั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าลงทุนในหุ้นกู้ใหม่ และต้องการได้เงินต้นคืนจากของเดิม”

ธุรกิจของ CHAYO เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนต่อเนื่อง หากต้องดึงเงินกลับมาใช้คืนหุ้นกู้ในทันที บริษัทจะไม่สามารถทำได้ทัน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีการต่อสู้ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขายที่ค่อนข้างช้า รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ซึ่งหากผู้ถือหุ้นกู้ไม่อนุมัติการเลื่อนชำระก่อนพฤศจิกายน อาจจะให้บริษัทเสี่ยงเข้าสู่ภาวะผิดนัดชำระหนี้ (Default) 

@ สินทรัพย์มูลค่าสูงต้องใช้ฝีมือ

ทั้งนี้บริษัทมีสินทรัพย์เพียงพอที่จะชำระหนี้ทั้งหมดได้ โดยปัจจุบันบริษัทมีหนี้สินทั้งหมด 4,500 ล้านบาท เป็นหนี้หุ้นกู้ 3,900 ล้านบาท และหนี้ธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท แต่มีสินทรัพย์รวมมากกว่า 9,000 ล้านบาท เป็นพอร์ตหนี้ไม่มีหลักประกันมูลค่า 2,800-2,900 ล้านบาท คาดว่าจะจัดเก็บได้ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีประวัติการจัดเก็บได้มากกว่า 2 เท่าของมูลค่า ส่วนพอร์ตหนี้มีหลักประกันมูลค่า 2,800-2,900 ล้านบาท ซึ่งซื้อมาในราคาเฉลี่ยไม่ถึง 50% ของมูลค่า ทำให้คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ถึง 6,000-7,000 ล้านบาท

“หนึ่งในสินทรัพย์สำคัญคือที่ดินเกาะยาวใหญ่ ซึ่งซื้อเข้ามาในพอร์ตด้วยสิทธิ์ความเป็นเจ้าหนี้ 695 ล้านบาท โดยไม่ต้องจ่ายเงินสด  ที่ดินแปลงนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดการเอกสารสิทธิ์และการรวม-แบ่งแปลงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน แบ่งเป็น กลุ่มแรก 19 ไร่ ติดโรงแรมใหญ่ กลุ่มที่ 2 ตรงข้ามกับเกาะยาวน้อย 241 ไร่ ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิ นส3ก. และได้มีการรีบไปแปลงเป็นโฉนดเพราะพื้นที่ข้างๆ เป็นโฉนดแล้ว และจะมีการบริหารจัดการด้วยการคุยกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะขายขาดหรือร่วมทุน 40 ไร่ก่อนเพื่อพัฒนาโรงแรม และที่ดินที่เหลือก็จะเพิ่มมูลค่าอีก”

@ จัดเก็บหนี้เพิ่มขึ้น

นายสุขสันต์  ยืนยันว่า สิ่งที่ทำให้บริษัทคืนหุ้นกู้ไม่ได้ขณะนี้คือการที่ตลาดหุ้นกู้ไม่ดี ออกหุ้นกู้ใหม่ทดแทนไม่ได้ แต่ทิศทางของบริษัทยังคงเติบโต จึงอยากขอโอกาสให้ทำงาน เนื่องจากธุรกิจ AMC มีความท้าทายการแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดต้องใช้เวลาและความสามารถ ซึ่งจากงบการเงินพบว่าปีที่แล้วบริษัทมีกำไรลดลงจากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ (ECL) จำนวนมาก โดยมีกำไรสุทธิ 241 ล้านบาท ขณะที่เฉพาะไตรมาส 1/2568 ไตรมาสเดียว บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 80 ล้านบาท และคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2 ก็ยังคงดีอยู่ โดยการจัดเก็บหนี้ไม่มีหลักประกัน ยอดจัดเก็บเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 30 กว่าล้านบาทต่อเดือน เมื่อ 3 ปีก่อน เป็น 55-58 ล้านบาทต่อเดือน ในปัจจุบัน และแนวโน้มครึ่งปีหลังโดยเฉพาะไตรมาส 3 และ 4 ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดจัดเก็บมักจะดี

@ รับจัดการหนี้เสียธนาคาร

นายสุขสันต์เน้นย้ำว่า บริษัทพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาและสื่อสารกับผู้ถือหุ้นกู้ล่วงหน้าอย่างโปร่งใส และยังคงเดินหน้าปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน โดยใช้ AI และระบบ IT เข้ามาช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน (เช่น พนักงาน 1 คนดูแลบัญชีได้มากขึ้นจาก 1,000 บัญชีเป็น 1,300 บัญชี) เพื่อให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสในการรับบริหารจัดการหนี้เสียให้กับภาครัฐหรือธนาคารต่างๆ ในอนาคต โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากในการซื้อหนี้เอง 

“ธุรกิจของเรายังทำได้ตามปกติ ขอแค่โอกาสและเวลาเพิ่มขึ้น”   นายสุขสันต์กล่าวพร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า หากได้รับการอนุมัติ บริษัทจะสามารถบริหารจัดการสินทรัพย์เพื่อชำระคืนเงินต้นให้ผู้ถือหุ้นกู้ได้ทั้งหมด และยังคงรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นควบคู่กันไป