รีเซต

WASH ลงสนามเทรดวันแรก 3 พ.ย. 68 มุ่งเป้าผู้นำร้านสะดวกซักครบวงจร

WASH ลงสนามเทรดวันแรก 3 พ.ย. 68 มุ่งเป้าผู้นำร้านสะดวกซักครบวงจร
TNN ช่อง16
3 พฤศจิกายน 2568 ( 08:29 )
13

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ลอนดรี้ ยู เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อ “WASH” ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568

WASH เป็นผู้ให้บริการร้านสะดวกซักครบวงจรด้วยเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าอุตสาหกรรมคุณภาพสูง ภายใต้แบรนด์ “WashXpress” รวมถึงให้สิทธิบุคคลอื่นในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ และจำหน่ายเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้าอุตสาหกรรม โดยร้านสะดวกซัก WashXpress มีทั้งรูปแบบบริการตนเอง (Self-service) และบริการครบวงจร (Full service) ได้แก่ บริการซักอบพับ บริการรับรีด รวมถึงการให้บริการรับจ้างซักอบรีดในปริมาณมากสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ 

ทั้งนี้ บริษัทพัฒนาแอปพลิเคชัน “WashXpress” เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาสาขาและการชำระเงิน ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2568 มีร้านสะดวกซักทั้งหมด 548 สาขา ครอบคลุม 21 จังหวัด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงเมืองรองและจังหวัดใหญ่ แบ่งเป็นสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของ 469 สาขา และสาขาแฟรนไชส์ 79 สาขา สำหรับงวด 6 เดือน 2568 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการให้บริการ : จำหน่ายสินค้า : แฟรนไชส์ : จำหน่ายเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และรายได้อื่นในสัดส่วน 94 : 3 : 1 : 2

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ลอนดรี้ ยู (WASH) กล่าวว่า บริษัทพัฒนาธุรกิจร้านสะดวกซักครบวงจรในคอนเซปต์ “สะอาด-สะดวก-สบาย” โดยมีผู้รับผิดชอบดูแลสาขาอย่างน้อย 1 คน พร้อมบริการล้างถังซักด้วยน้ำร้อนฟรีก่อนใช้ ร้านตั้งอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งชุมชน มีที่จอดรถ และเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ทั้งยังมีเครื่องแลกเหรียญ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติสำหรับการซักผ้า รวมถึงบริการ Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง 

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนเพิ่มจำนวนสาขา ปรับปรุงและยกระดับร้านสะดวกซัก WashXpress ของสาขาที่มีอยู่เดิม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

สำหรับยุทธศาสตร์การเติบโตในอนาคต WASH วางเป้าหมายไว้อย่างชัดเจนใน 3 แกนหลัก ได้แก่

(1) การขยายสาขาเชิงรุก (Branch Expansion) โดยตั้งเป้าหมายเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของจำนวน 80 สาขาในปี 2568 และมีแผนขยายสาขาอีกไม่น้อยกว่า 160 สาขาในปี 2569 - 2570 เพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด 

(2) การพัฒนาและขยายบริการครบวงจร (Full Service) ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายขึ้น พร้อมขยายบริการที่มีอยู่แล้ว เช่น บริการซักอบพับ บริการรับรีด และบริการรับจ้างซักอบรีดในปริมาณมากสำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) ให้ครอบคลุมสาขามากขึ้น รวมถึงมีแผนพัฒนาบริการใหม่ ๆ เช่น บริการรับ-ส่งผ้าถึงมือลูกค้า (Delivery Service) 

(3) การขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Technology Driven) ผ่านแอปพลิเคชัน WashXpress สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พร้อมนำข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานมาวิเคราะห์เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ และมีแผนจะนำรูปแบบสมาชิก (Subscription Model) มาใช้ในการให้บริการ

ข้อมูลการเสนอขาย : WASH มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 176.47 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 300 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 52.94 ล้านหุ้น และมีการจัดสรรหุ้นสามัญเดิมโดย Holistic Impact Pte. Ltd. อีกจำนวน 52.94 ล้านหุ้น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และนักลงทุนสถาบัน ไม่น้อยกว่า 79.41 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 15.88 ล้านหุ้น พนักงานของบริษัทไม่เกิน 10.59 ล้านหุ้น โดยเสนอขายผู้ลงทุนทุกประเภทระหว่างวันที่ 24-28 ตุลาคม 2568 ในราคาหุ้นละ 7.5 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 397.06 ล้านบาท และมูลค่าที่เสนอขาย 794.12 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,647.06 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 24.51 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ก.ค. 2567-30 มิ.ย. 2568) ซึ่งเท่ากับ 107.99 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.31 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ  

ผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO : 1) นายชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล ถือหุ้น 21.61% 2) นายกวิน กลองกระโทก และนางสาวอุไรวรรณ อ่อนเจริญ (คู่สมรส) ถือหุ้นรวม 16.30% และ 3) Holistic Impact Pte. Ltd. ถือหุ้น 12.84% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและตามที่บริษัทกำหนดไว้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง