บอร์ด สปสช.ชงของบ พ.ร.ก.เงินกู้ อีก 3,844 ล.จัดหาวัคซีนโควิด-19 ฉีดปชช. ต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ได้ดำเนินการเพื่อสนับสนุนหน่วยบริการในการให้บริการสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 โดยต้นปีงบประมาณ 2564 สปสช.ได้เสนอขอรับจัดสรรงบตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 จำนวน 9,200 ล้านบาท เบื้องต้นได้รับจัดสรรงบจำนวน 2,228 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณให้เสนอเพิ่มเติมภายหลัง และจากผลการดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีประชาชนได้รับการดูแล ทั้งบริการป้องกันและรักษาพยาบาลจำนวน 443,243 คน เบิกจ่ายแล้วจำนวน 1,247.70 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณ 600 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้งบคงเหลือจำนวน 980.98 ล้านบาท เพียงพอถึงเดือนเมษายนนี้
“ดังนั้น เพื่อให้เกิดการสนับสนุนหน่วยบริการในการให้บริการกรณีโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจในการเข้าถึงบริการให้กับประชาชน คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) วันนี้จึงมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินงานและบริหารจัดการกองทุนและ คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ ที่มีนางดวงตา ตันโช เป็นประธาน เพื่อเสนอขอรับงบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ ปี 2563 เพิ่มเติมจำนวนวงเงินไม่เกิน 3,844 ล้านบาท” นายอนุทิน กล่าวและว่า งบประมาณที่เสนอเพิ่มเติมนี้ นอกจากใช้เบิกจ่ายค่าบริการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2,446.76 ล้านบาท สำหรับคนไทยทุกสิทธิจำนวน 1,426,700 คน และค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 445.62 ล้านบาท โดยประมาณการผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ที่จำนวน 6,222 คนแล้ว ยังมีคำของบประมาณเพิ่มเติม เพื่อเป็นค่าบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับหน่วยบริการในอัตรา 20 บาท/โดส จากปีงบประมาณ 2564 มีแผนการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวน 42 ล้านโดส คิดเป็นงบประมาณจำนวน 840 ล้านบาท (ส่วนอีก 21 ล้านโดส จะเป็นการให้บริการหลังเดือนตุลาคม 2564 ที่เป็นค่าใช้จ่ายของปีงบประมาณถัดไป) พร้อมเพิ่มเติมงบในการรองรับกรณีเงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับบริการโควิด-19 อีกจำนวน 110.88 ล้านบาท ตามข้อเสนอจาก สธ.
ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ข้อเสนอขอรับงบจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติมจากรัฐบาลวงเงินไม่เกิน 3,844 ล้านบาทในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการที่ต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2563 และปีงบประมาณ 2564 ก่อนหน้านี้ เพื่อดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุขกรณีโควิด-19 โดยแยกจากงบกองทุนบัตรทองตามปกติเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ซึ่งภายหลังที่เกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 กองทุนบัตรทองได้เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีโควิด-19 เป็นการเฉพาะ ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการเข้าถึงการรักษาและบริการสาธารณสุขกรณีโควิด-19 ถือเป็นบทบาทของกองทุนบัตรทอง