รีเซต

ปลัด พณ.นำตรวจตลาดสดค้าส่ง ภาพรวมไม่พบผิดปกติ ยันราคาผัก-ผลไม้ขึ้นลงตามฤดูกาล

ปลัด พณ.นำตรวจตลาดสดค้าส่ง ภาพรวมไม่พบผิดปกติ ยันราคาผัก-ผลไม้ขึ้นลงตามฤดูกาล
มติชน
21 มกราคม 2565 ( 13:05 )
49
ปลัด พณ.นำตรวจตลาดสดค้าส่ง ภาพรวมไม่พบผิดปกติ ยันราคาผัก-ผลไม้ขึ้นลงตามฤดูกาล

เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ ได้สั่งการให้มีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะสินค้าผักและผลไม้ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของประชาชน ในวันนี้ได้ลงพื้นที่ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักและผลไม้ขนาดใหญ่ ทางตลาดแจ้งว่าราคาผักและผลไม้ยังเป็นปกติ มีการปรับขึ้นลงตามฤดูกาลที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากหรือน้อย สำหรับ มะละกอ ที่มีข่าวว่ามีการปรับขึ้นราคาจนส่งผลกระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าร้านส้มตำ จากการสอบถามเกษตรกรที่นำมะละกอมาลงจำหน่าย บอกว่า มะละกอมีการปรับขึ้นลงเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่ราคาจะปรับสูงขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ราคาจะมีการปรับลดลง โดยราคา ณ วันที่ 21 ม.ค.65 มะละกอลูกยาว (พันธุ์ดำเนิน) อยู่ที่ 100-130 บาท/ถุง 10 กก. และมะละกอลูกกลม อยู่ที่ 130-150 บาท/ถุง 10 กก. ซึ่งเป็นราคาปกติในช่วงนี้

 

นายบุณยฤทธิ์กล่าวต่อว่า กระทรวงพาณิชย์จะจับตาดูแลราคามะละกออย่างใกล้ชิด โดยในบางพื้นที่ที่มีปัญหาราคามะละกอแพงเนื่องจากประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้ผลผลิตออกน้อย เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็จะมีการเชื่อมโยงจับคู่ตลาดเพื่อกระจายผลผลิตให้มีความทั่วถึง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกชนิดอย่างใกล้ชิด โดยมีเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดจะออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ

 

“จากการลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าผักในวันนี้ ภาพรวมยังไม่พบความผิดปกติของราคาผักและผลไม้ เนื่องจากผักและผลไม้ เป็นสินค้าตามฤดูกาล ทำให้บางช่วงเวลาปริมาณผักผลไม้ออกสู่ตลาดมากน้อยไม่เท่ากัน ราคาจึงปรับขึ้นลงตามปริมาณของสินค้าที่ออกสู่ตลาด โดยในส่วนของราคามะละกอ ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากปริมาณที่ออกสู่ตลาดลดลง และจากการสอบถามเกษตรกรพบว่าราคามะละกอขึ้นลงตามฤดูกาลและความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ที่ราคามะละกอปรับตัวสูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาขายส่งมะละกอถุงละ 10 กิโลกรัมอยู่ที่ 100 บาทเท่านั้นและยังมีแนวโน้มลดลงหลังจากนี้ อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะจับตาดูและกระจายสินค้าให้มีความทั่วถึงไม่ขาดแคลนในทุกจุด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน

 

“ส่วนการกักตุนสินค้า นายจุรินทร์ได้มีข้อสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการในระดับจังหวัด ให้ทำหน้าที่กำกับดูแล และติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยให้พาณิชย์จังหวัด รวมถึงพนักงานตามกฎหมาย ที่เคยมีคำสั่งแต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เช่น นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ให้เข้ามาช่วยทำหน้าที่” นายบุญยฤทธิ์กล่าว

 

 

นายบุญยฤทธิ์กล่าวถึงกรณีตรวจพบเนื้อสุกรกว่า 2 แสนกิโลกรัมในพื้นที่ จ.สงขลา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งในส่วนของห้องเย็น และบริษัทเจ้าของเนื้อสุกร ถึงตัวเลขการนำสินค้าเข้าและนำสินค้าออกว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบสถิติเคลื่อนไหวย้อนหลัง โดนยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ล่าสุดสำหรับการแจ้งสต๊อกเนื้อสุกรจากโรงชำแหละและห้องเย็น มีการแจ้งเข้ามาแล้ว 313 ราย จากทั้งหมด 415 รายที่มีการขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ มีปริมาณปริมาณสุกรและชิ้นส่วนรวมราว 8.47 ล้านกิโลกรัม ส่วนผู้ประกอบการรายใดที่ยังไม่มีการแจ้งปริมาณสต๊อกเข้ามาอาจจะเพราะมีปริมาณสต๊อกไม่ถึง 5,000 กิโลกรัม แต่เพื่อความชัดเจน กระทรวงพาณิชย์จะจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการสุ่มตรวจความถูกต้องต่อไป

 

นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจ จำนวน 10 ชุด ออกตรวจสอบพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯเป็นประจำทุกวัน โดยกำชับให้ผู้ประกอบการมีการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยเด็ดขาด รวมทั้งได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง ซึ่งหากมีการตรวจสอบการกระทำผิดจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง