เกาหลีใต้สั่งห้ามเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงในกัมพูชา หวั่นตกเป็นเหยื่อเพิ่ม

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศคำเตือนระดับสูงสุด (ระดับที่ 4) ห้ามประชาชนเดินทางไปยังพื้นที่บางส่วนของกัมพูชา เริ่มมีผลตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป (16 ต.ค.) หลังพบว่ากรณีหลอกลวงการทำงาน ค้ามนุษย์ และการทรมานชาวเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ภูเขาโบกอร์ จังหวัดกำปอต เมืองบาเวต และเมืองปอยเปต ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในบัญชี “เตือนพิเศษ” ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยภูเขาโบกอร์เป็นสถานที่ที่พบศพนักศึกษามหาวิทยาลัยชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งในเดือนสิงหาคม ซึ่งเชื่อว่าเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า จังหวัดสีหนุวิลล์ได้ถูกยกระดับเป็น คำเตือนระดับ 3 คือ แนะนำให้ออกจากพื้นที่ทันที ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ที่เคยอยู่ในระดับ 1 หรือ 2 ก็ถูกปรับเพิ่มระดับคำเตือนเช่นกัน นับเป็นการปรับคำเตือนการเดินทางในกัมพูชาครั้งที่สองภายในสัปดาห์เดียว

รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง กำลังเร่งดำเนินมาตรการทุกทางเพื่อรับมือกับวิกฤตนี้ ซึ่งรวมถึงการลักพาตัวและการกักขังชาวเกาหลีใต้ในประเทศกัมพูชา

วี ซอง-ลัค ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ ระบุเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมว่า เกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะนำตัวชาวเกาหลีใต้ 63 คนที่ถูกควบคุมตัวในกัมพูชากลับประเทศภายในสุดสัปดาห์นี้ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะใช้ทุกวิถีทางในการจัดการเรื่องนี้

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญสูงสุดกับการเร่งส่งตัวชาวเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุมในการปราบปรามเมื่อเดือนกรกฎาคมและกันยายนกลับประเทศโดยเร็วที่สุด แต่ยอมรับว่าประเด็นสำคัญคือ “ระดับของความร่วมมือที่สามารถตกลงกับทางการกัมพูชาได้จริง”

นอกจากนี้ วียังเน้นว่าอีกหนึ่งภารกิจสำคัญคือการช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ยังคงสูญหายหรืออาจถูกกักขังอยู่ในค่ายอาชญากร โดยจะดำเนินการผ่านระบบความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่กัมพูชา ซึ่งหน่วยข่าวกรองแห่งชาติของเกาหลีใต้ (NIS) ประเมินว่า มีชาวเกาหลีใต้มากกว่า 1,000 คนที่อาจอยู่ในฐานปฏิบัติการหลอกลวงในกัมพูชา แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าทั้งหมดมีส่วนร่วมในการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้สังคมเกาหลีใต้ “อย่ามีท่าทีเป็นศัตรูต่อชาวกัมพูชา” พร้อมขอความร่วมมือจากสื่อและประชาชนให้เฝ้าระวังอาชญากรรมโดยไม่สร้างความเกลียดชัง เพราะชาวเกาหลีใต้และธุรกิจในกัมพูชา โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว กังวลอย่างมากต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจและภาพลักษณ์