รีเซต

หมอไม่ทนบุกสภา! แสดงพลังแต่งดำทั้งประเทศ สู่ปมร้อนนำเข้าวัคซีน ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

หมอไม่ทนบุกสภา! แสดงพลังแต่งดำทั้งประเทศ สู่ปมร้อนนำเข้าวัคซีน ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19
Ingonn
7 กรกฎาคม 2564 ( 14:52 )
144
หมอไม่ทนบุกสภา! แสดงพลังแต่งดำทั้งประเทศ สู่ปมร้อนนำเข้าวัคซีน ไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

แคมเปญ "หมอไม่ทน" ผ่าน Change.org ได้เชิญชวนทั้งประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมสวมเสื้อดำ ติดโบว์ดำ ในวันพุธที่ 7 กรกฏาคม 2564 เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด และยื่นข้อเรียกร้องต่อนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค.

 

 

โดยรายละเอียดมาจากเหตุการณ์เอกสารการประชุมเฉพาะกิจร่วมระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค คณะทํางานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาการให้บริการวัคซีน ซึ่งเป็นการประชุมเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ในมติไม่ได้มีพูดถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อเป็นการกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นด่านหน้า แม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วแต่ยังมีการติดเชื้อโควิด-19 อยู่ และประชาชนส่วนมาก ยังไม่ได้รับวัคซีนเเม้แต่เข็มแรก

 

 

ซึ่งในแคมเปญร่วมแสดงพลัง ติดโบว์ดำ สวมเสื้อดำทั้งประเทศครั้งนี้ มีรายละเอียดที่สำคัญ 5 ข้อ ดังนี้

 

1.นำเข้าวัคซีน mRNA ให้ได้เร็วที่สุด เเละนำมาใช้เป็นวัคซีนหลักในการป้องกันการระบาด โดยจะต้องเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบ

 

 

2.นำวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ต้องการฉีดทุกท่าน

 

 

3.เปิดเผยสัญญาการสั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค รวมถึงวัคซีนอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลไทยจะทำสัญญาในอนาคต เพื่อทำให้เกิดความโปร่งใส และพิสูจน์ให้ประชาชนได้ทราบว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการระบาดอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน

 

 

4.เปิดเผยบันทึกการประชุมในการประชุมเรื่องวัคซีนและการบริหารจัดการการระบาดโควิด-19 เป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะทั้งหมด

 

 

5.โควิด-19 สามารถแพร่กระจายผ่านอากาศ การสวม N95 จึงไม่เพียงพอต่อการป้องกันการติดเชื้อ รัฐจำเป็นต้องจัดหา FFP3 หรือ N99 เพื่อป้องกันการติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์

 

 

 

 

 

 

สถานการณ์ #หมอไม่ทน เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ทางเครือข่ายภาคีบุคลากรสาธารณสุขเข้ายื่นข้อเรียกร้องให้เร่งรัดนำเข้าวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนหลักของประเทศ พร้อมกับแนบรายชื่อ 215,409 รายชื่อ จากภาคีและกลุ่มหมอไม่ทนที่ได้เปิดให้ประชาชนลงชื่อ มายื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดย นายชวน หลีกภัย ได้มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขาธิการฯ เป็นผู้รับมอบหนังสือแทน พร้อมกับ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์

 

 

โดย นพ.สันติ กิจวัฒนาไพบูลย์ ตัวแทนภาคีเครือข่ายบุคลากรสาธารณสุข ได้แถลงถึงข้อเรียกร้องหลักๆ ที่ทางภาคีเครือข่ายสาธารสุข และหมอไม่ทน นำมายื่นในวันนี้ คือ เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA เช่น วัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยลดขั้นตอนการนำเข้าให้กระชับ รวดเร็วที่สุด พร้อมให้พิจารณาใช้วัคซีน mRNA เป็นวัคซีนหลักของประเทศและนำมาฉีดให้ประชาชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลในกระบวนการจัดหา และกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นปัจจุบัน โปร่งใส สม่ำเสมอ และตรวจสอบได้

 

 

เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 (สนง.กพ.เดิม) กลุ่มภาคีบุคลากรสาธารณสุข นำโดย นพ.สันติ กิจวัฒนาไพบูลย์ เเพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป โรงพยาบาลเอกชนแก่งหนึ่ง และนพ.ทศพร เสรีรักษ์ ตัวแทนภาคีเครือข่ายบุคลากรสาธารณสุข ยื่นหนังสือผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เรียกร้องให้เร่งรัดการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA มาใช้เป็นวัคซีนหลัก

 

 

 

 

-------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง