รีเซต

สาวอ้าปากกว้าง กิน 'เบอร์เกอร์' จนกรามค้างหนัก ผ่าตัด 5 ครั้ง ก็ยังไม่หาย!

สาวอ้าปากกว้าง กิน 'เบอร์เกอร์' จนกรามค้างหนัก ผ่าตัด 5 ครั้ง ก็ยังไม่หาย!
ข่าวสด
13 สิงหาคม 2564 ( 17:13 )
68

สาวผู้ดีอ้าปากกว้าง กินเบอร์เกอร์ยักษ์ สุดท้ายกรามค้างหนัก ถูกวินิจฉัยข้อต่อขากรรไกรผิดปกติ ผ่าตัด 5 ครั้ง ใส่สกรูอีก 12 ตัว ก็ยังไม่หาย กระทบหนักทั้งกายและใจ

ฮอลลี สเตรฟเวนส์ วัย 34 ปี จากเมืองพอร์ตสมัธ ประเทศอังกฤษเล่าว่า เธอนั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 5 ครั้งและยึดสกรู 12 ตัวที่ด้านซ้ายภายในปากของเธอ หลังจากที่เธอพยายามอ้าปากของเธอให้กว้างที่สุด เพื่อรับประทานเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่ จนทำให้กรามของเธอมีปัญหา

 

โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอ มีอาการข้อต่อขากรรไกรผิดปกติ ซึ่งเป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อขากรรไกรและเส้นประสาทที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือการอักเสบที่ข้อต่อระหว่างกระดูกขากรรไกรกับกะโหลกศีรษะ

 

ภาพก่อนและหลังกินเบอร์เกอร์

 

แต่แม้ว่าเธอจะเข้ารับการผ่าตัดแล้ว แต่เธอก็ยังรู้รู้สึกเจ็บปวด และทรมาณบริเวณกรามขวาทุกวัน และนำไปสู่อาการชักที่เกิดจากสภาวะทางจิตใจ ซึ่งมันทำให้เธออยากจะผ่าตัดเปลี่ยนกรามขวาด้วย

 

"ฉันรู้สึกโกรธสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่อ้าปากกว้างเกินไป" ฮอลลีกล่าวต่อว่า ก่อนที่เธอจะกินเบอร์เกอร์คำนั้น เธอเคยเป็นคนแข็งแรง ไม่เคยมีโรคประจำตัว แต่จู่ ๆ ข้อต่อขากรรไกรของเธอก็ผิดปกติซึ่งเกิดได้ยังไงไม่รู้

 

"ฉันกินเบอร์เกอร์อยู่บ้านตอนดูทีวี และในทันใดฉันก็มีเสียงดัง 'เป๊าะ' ดังออกมาจากข้อต่อขากรรไกรซ้ายของฉัน" เธอกล่าวต่อว่า "มันดูเหมือนจะปกติ มันเจ็บมาก เดี๋ยวล็อกเดี๋ยวคลาย และมันเกิดขึ้นเพราะฉันอ้าปากกว้างเกินไปขณะกินเบอร์เกอร์"

 

ฮอลลีกล่าวว่าเธอหวังว่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดจะลดขนาดเบอร์เกอร์ลง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้กับคนอื่นอีก เธอกล่าวว่าชีวิตของเธอ 'พัง' เนื่องจากเธอเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลาและมีอาการชัก เธอไม่สามารถกินแอปเปิ้ล หรือเคี้ยวอะไรที่แข็งได้ เพราะมันจะเจ็บปวดมาก จากนั้นเธอก็ตกงาน เพราะอาการชักที่เกิดขึ้นกับเธอ

 

 

 

 

เธอกล่าวว่าตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาเธอเสียเวลาไปกับการพบแพทย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และความเจ็บปวดก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเธอ ทั้งนี้โดยปกติแล้วคนทั่วไปสามารถอ้าปากได้กว้าง 35 มม. แต่สำหรับในตอนนี้เธอทำได้เพียง 13 มม.

 

"ฉันเสียใจที่กินเบอร์เกอร์ มันเปลี่ยนชีวิตฉัน ตอนนี้ฉันถูกจัดว่าเป็นคนพิการและสูญเสียอิสระภาพไปโดยสิ้นเชิง" ฮอลลีกล่าวอีกว่าสุขภาพจิตใจของเธอก็แย่ลง ทั้งยังมีความวิตกกังวลเพราะเธออาจมีอาการชักเมื่ออยู่คนเดียวได้ ในตอนนี้เธอเพียงคาดหวังว่าความเจ็บปวดเรื้อรังที่เกิดขึ้นนั้นจะจบสิ้นไปเสียที

 

 

 

ที่มา : dailymail

ข่าวที่เกี่ยวข้อง