รีเซต

ปลัด สธ. เผยระบบสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์'

ปลัด สธ. เผยระบบสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์'
มติชน
25 มิถุนายน 2564 ( 15:45 )
40
ปลัด สธ. เผยระบบสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์'

 

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมติดตามการเตรียมความพร้อมเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ที่ จ.ภูเก็ต ว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ

 

 

 

ในวันนี้ สธ.ได้ชี้แจงที่ประชุมถึงการเตรียมความพร้อมระบบการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรค การรักษาพยาบาล ซึ่งได้เตรียมการไว้อย่างพอเพียงทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชากรในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ฉีดเข็ม 1 ไปแล้วประมาณร้อยละ 70 เข็ม 2 ประมาณร้อยละ 50 และจะจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติมให้ ตั้งเป้าฉีดครอบคลุมให้ได้ถึงร้อยละ 80-90 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และลดการติดเชื้อให้มากที่สุด โดยเปิดรับนักท่องเที่ยวเฉพาะผู้ที่เดินเข้ามาทางสายการบินเท่านั้น และทุกคนทั้งชาวไทยและต่างชาติจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนก่อน

 

 

นอกจากนี้ ได้มีมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค โดยสุ่มตรวจประชาชนเพื่อค้นหาเชื้อในสถานที่ต่างๆ ทุกวัน เพื่อสร้างความมั่นใจและวางระบบการป้องกันโรคได้รวดเร็วตามสถานการณ์

 

 

 

“สิ่งที่กังวลคือ กลุ่มแรงงานที่จะเข้ามายัง จ.ภูเก็ต ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ที่ไม่ได้เดินทางเข้ามายังช่องทางที่ภาครัฐจัดไว้ ต้องขอความร่วมมือภาคประชาชน ผู้ประกอบการ ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ให้เข้มงวดเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากเกิดการแพร่ระบาดการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ อาจจะต้องเริ่มต้นใหม่ ขอให้คนไทยทุกคน รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องอย่าเห็นแก่ประโยชน์เพียงเล็กน้อย การนำแรงงานผิดกฎหมายเข้ามาอาจเกิดการแพร่เชื้อได้ ซึ่งรัฐบาลอยากให้ จ.ภูเก็ต เป็นต้นแบบในการเปิดรับนักท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอื่นๆ ต่อไปได้” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

 

 

ทั้งนี้ นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า มาตรการด้านสาธารณสุขในการเปิดพื้นที่นำร่อง สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต มีการกำหนดหลักเกณฑ์รับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก่อนเดินทางมาถึง เช่น นักท่องเที่ยวต้องมาจากกลุ่มประเทศเสี่ยงต่ำและปานกลางตามที่ สธ.กำหนด กรณีที่มาจากประเทศอื่นต้องอยู่ในประเทศที่กำหนดอย่างน้อย 21 วัน ได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดและมีเอกสารรับรอง กรณีเด็กที่มากับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางพร้อมกันได้กรณีเคยติดเชื้อต้องได้รับวัคซีนตามกำหนดทั้ง 2 เข็มมาแล้วอย่างน้อย 14 วันหรือมีผลการตรวจโควิด 19 ภายใน 72 ชั่วโมง

 

 

“เมื่อเดินทางถึงต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรของ ศบค. โดยโรงแรมจะต้องจัดรถรับส่งสนามบินและที่พัก, เข้ารับการตรวจหาเชื้อครั้งแรก ณ โรงแรมที่พักหรือจุดตรวจ เมื่อทราบผลการตรวจแล้วไม่พบเชื้อสามารถออกเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้ และต้องพำนักใน จ.ภูเก็ต แล้วอย่างน้อย 14 คืน จึงจะออกนอก จ.ภูเก็ต ได้ ยกเว้นการเดินทางออกนอกประเทศ, โรงแรมและโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการจะต้องตรวจหาเชื้อให้กับนักท่องเที่ยวด้วยวิธี RT PCR อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 6-7 และวันที่ 12-13 หรือตามข้อกำหนดของ ศบค.ขณะนั้น และต้องปฏิบัติตามมาตรการ DMHTTA อย่างเคร่งครัด และก่อนเดินทางออกไปจังหวัดอื่นๆ ต้องแสดงหลักฐานยืนยันการเดินทางและพำนักในสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA+ ใน จ.ภูเก็ต เป็นระยะเวลาที่ สธ.กำหนด และมีผลตรวจตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตกำหนด” ปลัด สธ.กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง