รีเซต

"คนจีน" แห่เที่ยวอวดรวย โชว์ขี่อูฐ ดูทะเลทราย ยอดบิน-ที่พักตะวันออกกลางพุ่ง 400%

"คนจีน" แห่เที่ยวอวดรวย โชว์ขี่อูฐ ดูทะเลทราย ยอดบิน-ที่พักตะวันออกกลางพุ่ง 400%
TNN ช่อง16
22 ตุลาคม 2568 ( 08:00 )
13

นักท่องเที่ยวจีนฮิตเที่ยวอวดรวย โชว์ขี่อูฐ-ดูทะเลทราย ยอดบินเที่ยวตะวันออกกลางพุ่ง 400%


ตะวันออกกลางมาแรงแซงทางโค้ง กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนไปแล้ว  หลังจากมีรายงานว่าในช่วงวันหยุดยาว “โกลเดนวีค” หรือวันเทศกาลวันชาติของจีนที่ผ่านมา มียอดการเข้าพักและเดินทางพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์  


สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ตะวันออกกลางซึ่งไม่เคยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน กำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงอย่างรวดเร็วในปีนี้ ข้อมูลพบว่า ในช่วงโกลเดนวีค ที่ผ่านมา พบว่ามีการจองทริปไปยัง "กรุงโดฮา" เพิ่มขึ้นถึง 441% จากปีก่อน โดย "อาบูดาบี" เพิ่มขึ้น 229% ตามข้อมูลของ Trip.com  ขณะที่ ดูไบ มีการจองเพิ่มขึ้น 27% จนติดหนึ่งในสิบจุดหมายปลายทางนอกเอเชียยอดนิยม ตามข้อมูลของบริษัทวิเคราะห์การเดินทาง ForwardKeys 


สำหรับ "ดูไบ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มรายได้สูงที่เดินทางด้วยที่นั่งชั้นพรีเมียม บิสสิเนส และเฟิร์สคลาส โดยยอดจองเพิ่มขึ้น 133% เมื่อเทียบกับปีก่อน การเติบโตนี้สะท้อนแนวโน้มที่กว้างขึ้นของการเดินทางจากจีนสู่ตะวันออกกลาง ซึ่งขณะนี้จำนวนเที่ยวบินจากจีนไปยังภูมิภาคนี้เพิ่มสูงขึ้นมาถึง 25% ในปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (2567) และหากเอาไปเปรียบเทียบกับก่อนโควิด-19 หรือช่วงปี 2562 จะพบว่าตัวเลขปัจจุบันสูงขึ้นถึงกว่า 180% ตามข้อมูลของ Trip.com สิงคโปร์


นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก Tongcheng Travel แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ใหญ่เป็นอันดับสองของจีน ระบุว่า 5 จุดหมายปลายทางต่างประเทศที่มียอดจองโรงแรมเพิ่มสูงสุดช่วงโกลเดนวีค ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย อียิปต์ นิวซีแลนด์ คาซัคสถาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตะวันออกกลางได้รับความนิยมที่เพิ่มขึ้นมาจาก นโยบายวีซ่าที่ผ่อนคลายและเส้นทางบินตรงที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลจาก Trip.com ชี้ว่า นับตั้งแต่ก่อนช่วงโควิดระบาด ใน UAE ทั้งดูไบและอาบูดาบีเป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมสูงของชาวจีนอยู่แล้วเพราะขอวีซ่าง่ายหรือไม่ต้องขอด้วยซ้ำ และหลังจากเหตุโควิด-19 หลายประเทศในตะวันออกกลางก็เปิดประเทศเร็ว เช่น UAE ดังนั้นจึงได้รับความนิยมเพราะเดินทางสะดวก ราคาไม่สูง และมีตัวเลือกกิจกรรมหลากหลาย


นอกจากนี้การเเดินทางก็สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันนี้สายการบินจากตะวันออกกลางได้มีการขยายเส้นทางบินตรงมายังเมืองใหญ่ของจีนอย่างต่อเนื่อง เช่น Emirates ซึ่งเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่จากดูไบสู่เมืองหางโจวในเดือนกรกฎาคม และก่อนหน้านั้นไม่นานได้เปิดเส้นทางบินไปยังเซินเจิ้นอีกด้วย ซึ่งทั้งสองเมืองที่บอกมานี้ ล้วนแต่เมืองสำคัญเป็นศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของจีน


ขณะเดียวกันอีกหนึ่งจุดแข็งของตะวันออกกลาง คือ เสน่ห์เฉพาะตัวของพื้นที่ เพราะนักท่องเที่ยวจีนยังให้ความสนใจกับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและการเรียนรู้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงกิจกรรมหรูหราอย่างซาฟารีกลางทะเลทรายหรือเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ทริปเชิงการศึกษา และกิจกรรมที่ได้เรียนรู้จากท้องถิ่นจริง ๆ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มใหม่ของนักเดินทางรุ่นใหม่ที่แสวงหาประสบการณ์จริงและมีความหมาย


ความเห็นจาก "Alexander Glos" ซีอีโอของบริษัท China i2i Group กล่าวว่าการเดินทางไปตะวันออกกลางได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของสถานะทางสังคม สำหรับนักท่องเที่ยวจีน เพราะการมาเที่ยวที่นี่ได้แสดงถึงความเป็นนักผจญภัย มีฐานะ และได้ไปในที่ที่คนอื่นยังไม่เคยไป ก่อนจะโพสต์แชร์ลงบน WeChat


อีกปัจจัยสำคัญ และขาดไม่ได้ คือ ความหลากหลายของอาหาร ที่มีความแปลกใหม่กับคนจีน ความเห็นจาก "Peggy Li" ซีอีโอของ SPS Affinity กล่าวว่า  นักท่องเที่ยวจีนไม่ค่อยมีโอกาสได้ลองอาหารอิหร่าน อัฟกัน ซีเรีย หรือเลบานอนมาก่อน ดังนั้นภูมิภาคนี้จึงเป็นเหมือนกับหม้อรวมทางวัฒนธรรม ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสรสชาติใหม่ ๆ อย่างแท้จริง


อย่างไรก็ตามแม้ความนิยมของตะวันออกกลางโดยรวมจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะยังฮอตฮิต เนื่องจากแต่ละที่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวคล้ายๆกัน เช่น ทะเลทราย ขี่อูฐ หรือบอลลูนชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ละประเทศในอ่าวอาหรับจึงอยู่ความท้าทายในการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ได้


โดยเฉพาะดูไบเริ่มประสบปัญหาในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นมากกว่า พวกเขารู้สึกว่าดูไบไม่ค่อยมีเอกลักษณ์ท้องถิ่น มันมีแต่แมคโดนัลด์ เคเอฟซี และร้านกาแฟตะวันตก ไม่ค่อยให้ความรู้สึกแบบอาหรับ พร้อมประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปดูไบปีนี้ลดลงราว 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน  ในขณะที่ อาบูดาบี กลับมาแรง และโดดเด่นกว่าเพราะมีบรรยากาศแบบเอมิเรตแท้ ๆ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่แตกต่าง


ข้อมูลจากกรมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดูไบชี้ว่า นักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงประมาณ 0.4% ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567


อีกปัจจัยหนึ่งคือ กำลังซื้อของผู้บริโภคจีนที่ลดลง จากเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว และการที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าทำให้สินค้าหรูในญี่ปุ่นราคาถูกลง ส่งผลให้นักช้อปชาวจีนหันไปซื้อของหรูในญี่ปุ่นมากกว่าดูไบ


ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าในอนาคต การแข่งขันแย่งชิงนักท่องเที่ยวจีนระหว่างประเทศในตะวันออกกลางจะยิ่งรุนแรงขึ้น มันจะเป็นการแข่งขันของผู้ที่ปรับตัวเก่งที่สุด เพื่อคว้าส่วนแบ่งนักท่องเที่ยวจีนในตลาดโลก

การท่องเที่ยวไทย ตลาดคนจีนส่งสัญญาณฟื้นตัว โกลเด้นวีคพุ่ง วันละ 2 หมื่นคน

 

ทัวร์จีนเปลี่ยนทิศได้เสมอ ไทยเองก็เช่นกัน เรายังคงมีความหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยอย่างคึกคักอีกครั้ง  ล่าสุดมีสัญญาณฟื้นตัวใน  Golden Week ที่ผ่านมา มีคนจีนเยือนไทยพุ่งกว่า 22,000 คนต่อวัน 


ข้อมูลจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดยาว Golden Week ที่ผ่านมา หรือช่วงเทศกาลวันชาติของจีน ในช่วงวันที่ 26 กันยายน - 6 ตุลาคม 2568 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 22,000 คน ตัวเลขตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวมกว่า 580,000 คน ซึ่ง 1 ใน 5 เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน


นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการแอตต้า ระบุว่า เที่ยวบินจากเมืองใหญ่และเมืองรองของจีนมายังไทยเต็มแทบทุกไฟลท์ อัตราค่าตั๋วขากลับจีนพุ่งสูงขึ้น โดย “กรุงเทพฯ–ปักกิ่ง” ราคาเพิ่มขึ้นกว่า 400% จากระดับ 1,500-2,000 หยวน ขยับไปแตะ 4,000-5,800 หยวน ในช่วงวันที่ 7-9 ตุลาคม 2568 สำหรับสายการบินใหญ่ทั้ง China Eastern, Hainan Airlines, Air China


ส่วนอัตราผู้โดยสารเฉลี่ยสูงถึง 99% มากกว่าช่วงปกติถึง 3 เท่า สะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวจีนยังสนใจเที่ยวไทย แต่รัฐต้องมีมาตรการยกระดับเรื่องความปลอดภัยและประชาสัมพันธ์อย่างเข้มข้น


เส้นทางที่นักท่องเที่ยวจีนนิยม เช่น กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ส่วนการใช้จ่ายไม่ได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยปี 2568 มีชาวจีนเข้ามาเที่ยวไทยแล้วราว 3.4 ล้านคน คาดว่าสิ้นปีจะอยู่ที่ 5 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ 7 ล้านคน อาจต้องลุ้นในช่วง 3 เดือนสุดท้าย หากมีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยวันละ 20,000 คนต่อเนื่อง เชื่อว่านักท่องเที่ยวจะเป็นไปตามเป้าหมาย


ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจีน ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดท่องเที่ยวในทุกประเทศ ทั้งจากจำนวนคน จากกำลังซื้อ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราที่ต้องหาทางฟื้นความเชื่อมั่้นให้กลับมา

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง