รีเซต

เปิดข้อมูล "ฝีดาษลิง" รายที่ 5 มีอาการตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าไทย

เปิดข้อมูล "ฝีดาษลิง" รายที่ 5 มีอาการตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าไทย
TNN ช่อง16
16 สิงหาคม 2565 ( 09:06 )
151
เปิดข้อมูล "ฝีดาษลิง" รายที่ 5 มีอาการตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าไทย

ฝีดาษลิงรายที่ 5 มีอาการตั้งแต่อยู่ดูไบ



นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิง หรือ เคลด รายที่ 5 ในไทย เป็นหญิงไทยอายุ 25 ปี ตรวจสอบประวัติพบว่า มีอาการป่วยตั้งแต่อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ และเดินทางกลับมาไทย โดยมีต้นทางจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงไทยวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา และเข้ารับการคัดกรอง โดยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเข้าระบบคัดกรอง ตรวจ และสังเกตอาการ เจ้าหน้าที่พบว่าเข้าข่ายสงสัย มีอาการเหมือนไม่สบาย และสังเกตเห็นตุ่ม  ซึ่งการซักถามประวัติ ก็ให้ความร่วมมือดี 


จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยในโรงพยาบาล ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเป็นโรคฝีดาษลิง จึงได้นำตัวเข้าสู่การรักษาตามระบบปกติ จากนั้นก็จะแจ้งไปที่ดูไบ ซึ่งเป็นต้นทาง ตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ


นายแพทย์ โอภาส ระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้ ถือเป็นการติดเชื้อจากต่างประเทศ เพราะมีอาการตั้งแต่อยู่ที่ต่างประเทศ ผู้สัมผัสถือว่ามีน้อย เนื่องจากเพิ่งเข้ามาไทย และสัมผัสใกล้ชิดจริงๆ ตามนิยาม แทบไม่มี แต่ได้ติดตามคนที่นั่งบนเครื่องบินใกล้กัน 2 คน ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ   พร้อมกับยืนยันว่า โรคฝีดาษลิงติดต่อไม่ง่าย ที่ผ่านมา 




มีข้อมูลจากต่างประเทศหลายครั้งระบุว่า คนติดเชื้อฝีดาษลิงพอขึ้นเครื่องบินมา คนนั่งข้างๆ ไม่มีคนใดติดเชื้อเลย แต่เพื่อให้ระบบการทำงานสมบูรณ์แบบ จะติดตามผู้ที่นั่งข้างๆ มาตรวจสอบโรค หากยังอยู่ในไทย และที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อรายที่ 1-4 ของไทย ก็ยังไม่มี ผู้ใกล้ชิดคนไหนติดเชื้อ แม้แต่การพักอาศัยภายในบ้านเดียวกันหลายวัน ก็ยังตรวจไม่พบการติดเชื้อ




สถานการณ์โรคฝีดาษลิงทั่วโลก



สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษลิงของโลกในขณะนี้ มีแนวโน้มพบผู้ป่วยสูงขึ้นในแถบอเมริกาและแคนาดา ส่วนแถบทวีปยุโรป ผู้ป่วยยังคงตัว (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ส.ค. 65) พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิง ยืนยันทั่วโลก จำนวน 35,910 คน / เสียชีวิต 13 คน ประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด ลำดับแรก คือสหรัฐอเมริกา 11,177 คน อันดับสอง สเปน 5,856 คน  อันดับสาม เยอรมัน 3,102 คน  ส่วนอันดับสี่ คือ อังกฤษ 2,914 คน และอันดับห้า บราซิล 2,849 คน



ภาพ TNNONLINE  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง