รีเซต

เชียงใหม่ ตั้งรักษาการเจ้าอาวาส 4 วัด แทนแก๊งพระปาร์ตี้หมูกระทะ

เชียงใหม่ ตั้งรักษาการเจ้าอาวาส 4 วัด แทนแก๊งพระปาร์ตี้หมูกระทะ
มติชน
3 กันยายน 2564 ( 09:40 )
67
เชียงใหม่ ตั้งรักษาการเจ้าอาวาส 4 วัด แทนแก๊งพระปาร์ตี้หมูกระทะ

เชียงใหม่ ตั้งรักษาการเจ้าอาวาส 4 วัด แทนแก๊งพระปาร์ตี้หมูกระทะ

จากกรณี ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ บุกจับกุมพระสงฆ์ตั้งวงปาร์ตี้ หมูกระทะ ดื่มเบียร์ภายในวัดหน้าองค์พระประธาน วัดปันเส่า อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีพระสงฆ์ 7 รูป และฆราวาสชาย 1 คน พร้อมของกลาง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และหมูกระทะ จากนั้น ทำการตรวจวัดพบว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกาย ต่อมาทราบว่า ในจำนวนนี้มีพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาส 4 รูป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ล่าสุดวันที่ 3 ก.ย.2564 นายวัลลภ นามวงศ์พรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และเลขาธิการมูลนิธิพระบรมธาตุดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้พระชั้นผู้ใหญ่ที่ปกครองได้ทำการแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาสวัดทั้ง 4 วัดดังกล่าวแล้ว โดยวัดปันเส่า ให้เจ้าอาวาสวัดผาลาด รักษาการ, วัดยางกวง ให้เจ้าอาวาสวัดวังสิงห์คำ รักษาการ, วัดบ้านปิง ให้เจ้าอาวาสวัดดอกคำ รักษาการ และ วัดหัวฝาย ให้เจ้าอาวาสวัดช่างฆ้อง รักษาการ ซึ่งเป็นการแต่งตั้งตามปกติในกรณีที่วัดไม่มีเจ้าอาวาส

 

 

 

 

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวลือว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดทั้ง 4 วัด ลาสิกขาไปภายในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับเงินฝากในบัญชีจำนวนมากนั้น มองว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะวัดแต่ละแห่งนั้นไม่ได้มีศรัทธาญาติโยมอุปถัมภ์วัดมากนัก และแต่ละเดือนเงินที่ได้จากการทำบุญหรือรับบริจาคยังแทบไม่พอจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ นอกจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนายังมีการตรวจสอบรายรับรายจ่ายเข้มงวดทุกเดือนด้วย

 

 

 

 

สำหรับพฤติกรรมที่อดีตพระกลุ่มดังกล่าวปฏิบัติจนนำไปสู่การถูกดำเนินคดีและตัดสินลงโทษนั้น นายวัลลภ ยอมรับว่า พฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสม แต่อีกส่วนหนึ่งอยากให้เข้าใจและเห็นใจว่าพระก็เป็นมนุษย์เช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มนี้ที่ยังอายุน้อย อีกทั้งเป็นพระฝ่ายเผยแผ่ ไม่ใช่พระสายปฏิบัติ ทำให้บ้างครั้งอาจจะยับยั้งชั่งใจไม่ได้ ประกอบกับประสบการณ์ยังน้อย อีกทั้งอาจมีความเครียดต่าง ๆ สะสมด้วย ทำให้ก่อเหตุดังกล่าวลงไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

 

 

 

นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ซึ่งที่จริงแล้วความผิดนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องลาสิกขา เพราะเป็นเพียงปาจิตตีย์ที่เป็นความผิดเล็กน้อยเท่านั้น เพียงแค่ทำการปลงอาบัติก็ได้ แต่อดีตพระทั้งหมดก็ทราบว่าเป็นโลกวัชชะหรือการทำผิดที่โลกติเตียน ทำให้วัดและวงการสงฆ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นทั้งหมดสมัครใจพร้อมกันที่จะลาสิกขาออกไปเพื่อรักษาพระพุทธศาสนาและชื่อเสียงของวัด รวมทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ โดยอนาคตหากทั้งหมดนี้คิดจะกลับมาบวชเป็นพระสงฆ์อีกก็ย่อมทำได้ เหมือนคนที่หลงผิดแล้วกลับตัวกลับใจ ที่สมควรให้โอกาส

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง