รีเซต

นักวิทย์ใช้ AI ศึกษาภูเขาน้ำแข็ง ประมวลผลเร็วกว่ามนุษย์ 10,000 เท่า

นักวิทย์ใช้ AI ศึกษาภูเขาน้ำแข็ง ประมวลผลเร็วกว่ามนุษย์ 10,000 เท่า
TNN ช่อง16
16 พฤศจิกายน 2566 ( 13:02 )
46
นักวิทย์ใช้ AI ศึกษาภูเขาน้ำแข็ง ประมวลผลเร็วกว่ามนุษย์ 10,000 เท่า

นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ศึกษาการละลายของภูเขาน้ำแข็งซึ่งเป็นตัวสะท้อนภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี โดยวิธีการศึกษาใหม่นี้แตกต่างจากวิธีการเดิมที่ใช้มนุษย์ในการติดตามการละลายของภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งหากเทียบความเร็วในการทำงานและประมวลผลพบว่าปัญญาประดิษฐ์ทำงานได้เร็วกว่ามนุษย์ 10,000 เท่า ใช้เวลาตรวจสอบโครงสร้างของภูเขาน้ำแข็งเพียง 0.01 วินาที


สาเหตุสำคัญที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์มุ่งศึกษาภูเขาน้ำแข็ง นอกจากเป็นตัวสะท้อนภาวะโลกร้อนและระดับน้ำในทะเลเพิ่มสูงขึ้น ภูเขาน้ำแข็งที่ละลายออกมาจากทวีปแอนตาร์กติกาอาจทำอันตรายต่อเรือเดินสมุทร ซึ่งต้องมีการติดตามระบุตำแหน่งของภูเขาน้ำแข็งอยู่ตลอดเวลา


สำหรับภูเขาน้ำแข็งที่นักวิทยาศาสตร์เลือกศึกษาติดตามความเปลี่ยนแปลงมีหลายลูกด้วยกัน แต่ภูเขาน้ำแข็งที่ชื่อว่า A68a ได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพราะมันมีความยาวมากกว่า 100 ไมล์ หรือประมาณ 160 กิโลเมตร ความกว้าง 30 ไมล์ หรือประมาณ 48 กิโลเมตร ภูเขาน้ำแข็งลูกดังกล่าวได้แตกตัวและลอยแยกออกจากคาบสมุทรแอนตาร์กติกในปี 2017 


นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าภูเขาน้ำแข็งที่ละลายอาจปล่อยน้ำจืดกว่า 1 ล้านล้านตันลงสู่มหาสมุทร ซึ่งอาจกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลและห่วงโซ่อาหาร อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่มีข้อสรุปว่าปริมาณน้ำจืดมหาศาลนี้จะส่งผลกระทบด้านบวกหรือด้านลบต่อระบบนิเวศในทะเล


วิธีการติดตามและบันทึกภาพภูเขาน้ำแข็ง A68a นักวิทยาศาสตร์ใช้ภาพถ่ายดาวเทียม Sentinel-1 ขององค์การอวกาศยุโรป ที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญในการติดตามการละลายของน้ำแข็ง โดยภาพถ่ายจำนวนหลายพันภาพที่ถูกบันทึกด้วยดาวเทียมหากใช้มนุษย์อาจต้องใช้เวลานานหลายปีในการประมวลผลข้อมูล


การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรียนรู้และประมวลผลข้อมูลเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้เมื่อเทียบกับจำนวนของภาพถ่ายหลายพันภาพที่รอการวิเคราะห์ประมวลผล อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังคงพบปัญหาเล็กน้อยโดยข้อมูลภาพบางส่วนมีขนาดใหญ่เกินกว่าปัญญาประดิษฐ์จะสามารถประมวลผลได้ทำให้ความแม่นยำในการประมวลลดลงมาอยู่ที่ 99% 


ในขณะนี้การวิจัยภูเขาน้ำแข็ง A68a ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และด้วยความสามารถของปัญญาประดิษฐ์คาดว่าผลการวิจัยและข้อสรุปต่าง ๆ สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น รวมไปถึงการติดตามภูเขาน้ำแข็งลูกอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กันหลายลูก 


ที่มาของข้อมูล space.com, tc.copernicus.org

ที่มาของรูปภาพ leeds.ac.uk



ข่าวที่เกี่ยวข้อง