กกจ. เผย แนวทางจัดส่งคนไทยไปเก็บผลไม้ป่า ฟินแลนด์ และสวีเดน ต้องปฏิบัติตามมาตรการโควิด
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผย ว่า บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าในประเทศฟินแลนด์และนายจ้างบริษัทในประเทศสวีเดน แจ้งความประสงค์จ้างคนงานไทยไปทำงาน และมีคนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานเก็บผลไม้ป่าจำนวนมาก กรมการจัดหางานจึงได้กำหนดมาตรการ แจ้งการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์และสวีเดน ฤดูกาลปี 2020 เพื่อให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 พิจารณาความเหมาะสมในการจัดส่งคนงานไทย เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์และสวีเดน ฤดูกาลปี 2020 โดยได้กำหนดให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าประเทศฟินแลนด์และบริษัทนายจ้างประเทศสวีเดน รวมทั้งบริษัทนายจ้างในประเทศไทยปฏิบัติตามเพื่อเป็นการคุ้มครองและดูแลคนงานไทยที่เดินทางไปเก็บผลไม้ป่าใน ฤดูกาลปี 2020 คือ บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์และบริษัทนายจ้างสวีเดน/บริษัทนายจ้างในประเทศไทยต้องจัดทำประกันสุขภาพให้คนงานไทยที่เดินทางไปทำงาน ไม่จำกัดวงเงินความคุ้มครอง และครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริษัทต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกักตัวในประเทศไทย เป็นเวลา 14 วัน
เมื่อคนงานเดินทางกลับถึงประเทศไทย พร้อมทั้งจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้คนงานไทยกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นจำนวนเงิน 1,000,000 บาท และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้คนงานก่อนเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าบริษัทนายจ้างสวีเดนจะต้องจัดเครื่องบินเหมาลำไป-กลับ ให้คนงานไทยที่จะเดินทางไปทำงาน และจัดรถรับ – ส่ง จากสนามบิน – แคมป์ที่พัก – สนามบิน ต้องจัดเตรียมที่พักให้คนงานไทยไม่เกิน 4 คนต่อห้อง จัดเตรียมห้องน้ำ/ ห้องสุขาเฉพาะสำหรับห้องพักแต่ละห้อง จัดเตรียมอุปกรณ์/ของใช้ส่วนตัว และอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อ เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ให้คนงานไทยทุกคน
พร้อมทั้งจัดเตรียมรถสำหรับเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า โดยรถแต่ละคันจะมีคนงานไทยไม่เกิน 6 คน และต้องดำเนินการต่ออายุวีซ่าให้คนงานไทย กรณีที่คนงานอยู่ระหว่างรอเดินทางกลับประเทศไทย และวีซ่าหมดอายุ พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด สำหรับประเทศฟินแลนด์หลังสิ้นสุดฤดูกาลปี 2020 บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์ต้องประกันรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายให้คนงานไทยไม่ต่ำกว่า 108,170 บาท ส่วนประเทศสวีเดน บริษัทนายจ้างสวีเดน/บริษัทนายจ้างในประเทศไทยต้องรับรองรายได้ขั้นต่ำรายเดือนให้แก่คนงานไทยไม่ต่ำกว่า 22,049 โครนาสวีเดน คิดเป็นเงินไทย 71,659 บาท
“สำหรับมาตรการเพิ่มเติมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 คือ มาตรการการกักตัว 14 วัน เมื่อคนงานเดินทางกลับถึงประเทศไทย การตรวจหาเชื้อ covid ก่อนไปและก่อนกลับประเทศไทย และจัดทีมควบคุมทางสาธารณสุข เดินทางพร้อมไปกับคนงานเพื่อดูแล ให้คำปรึกษา และประสานกับหน่วยงานสาธารณสุขของไทย ในการติดตามและเฝ้าระวังโรคอย่างใกล้ชิด หากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องดำเนินการแยกคนงาน เพื่อกักตัวและทำการรักษาพยาบาลจนหาย ที่ประชุมศบค.กำหนดให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่า และบริษัทนายจ้างสวีเดน/บริษัทนายจ้างในประเทศไทยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่าทั้งหมดให้คนงานไทย โดยวางหลักประกันทางการเงิน (Bank guarantee) คนงาน ต้องได้รับการอบรมก่อนเดินทางทุกคน และกรณีฟินแลนด์กรมการจัดหางานกำหนดให้บริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์จัดทำหนังสือแต่งตั้งตัวแทนในการดูแลและคุ้มครองคนไทยทีเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า ฤดูกาลปี 2020 ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2020 ฉบับภาษาอังกฤษ โดยบริษัทผู้รับซื้อผลไม้ป่าฟินแลนด์ลงนามและนำไปผ่านการรับรองของโนตารีพับลิค และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ” นายสุชาติฯ กล่าว
อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับคนงานไทยที่ต้องการเดินทางไปเก็บผลไม้ป่า หรือเดินทางไปทำงานตามฤดูกาล (Seasonal Work) และคนงานสนับสนุน (Staff) ที่ฟินแลนด์ และสวีเดนในปีนี้ นอกจากได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และได้ค่าจ้างที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ด้วย ซึ่งเป็นแนวทางที่กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานวางไว้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนงานไทย ทั้งนี้ คนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 -10 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน