รีเซต

บล.กสิกรคาด TCAP แนวโน้มสดใส ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 65.6 บ.

บล.กสิกรคาด  TCAP แนวโน้มสดใส ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 65.6 บ.
ทันหุ้น
27 ตุลาคม 2566 ( 14:40 )
45
บล.กสิกรคาด  TCAP แนวโน้มสดใส ราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 65.6 บ.

#บล.กสิกรไทย #ทันหุ้น - บล. กสิกรไทย มองว่าบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) TCAP แนวโน้มสดใส  คาดกำไรปกติไตรมาส 3/ 2566 ที่ 1.8 พันลบ.

 

ภาพรวมธุรกิจของ TCAP มีแนวโน้มสดใส และคาดว่ากระแสเงินสดอิสระที่สูงจะช่วยให้ TCAP สามารถลงทุนใหม่และรับประกันการจ่ายเงินปันผลได้ เราชอบ TCAP จากการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจในปัจจบัน โดยมีส่วนลดการถือครองที่สูง แนวโน้มกำไรที่ดีขึ้น และประมาณการของตลาดที่ปรับเพิ่มขึ้น

 

TCAP มีกำหนดรายงานงบการเงินไตรมาส 3/2566 ในวันที่ 13 พ.ย. และประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศผลประกอบการในวันที่ 16 พ.ย. บล.กสิกรไทยคาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 35.2% YoY และ 1.4% Q0Q ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตน่าจะมาจาก 

 

1) ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก TTB และ MBK 

2) รายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพอร์ตสินเชื่อธนชาตพลัส (TPLUS) 

3) ผลกำไรที่ดีขึ้นจาก ที ไลฟ์ประกันชีวิต (TLife) และธนชาตประกันภัย (TNI) 

 

แต่จะชดเชยบางส่วนด้วย 

1) กำไรของ THANI ที่ลดลงจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดหวัง (ECL) ที่สูงขึ้น และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

2) ผลการดำเนินงานของหลักทรัพย์ธนชาต (โNS) ที่อ่อนแอจากปริมาณการซื้อขายในตลาดลดลงประมาณการกำไรปกติในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 ของเราอยู่ที่ 5.16 พันลบ. คิดเป็น76% ของประมาณการทั้งปีของเรา จึงคงประมาณการกำไรปกติปี 2566-68 ไว้

 

การดำเนินงาน ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนรายได้ของ TCAP ได้แก่ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิจาก THANI, TPLUS, TNS และเบี้ยประกันภัยสุทธิจาก TNI และ TNL เราคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยรวมไตรมาส 3/2566 จะอยู่ที่ 1.35 พันลบ. เพิ่มขึ้น 13.9% YoY และ 0.2% Q0Q โดยปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต Q0Q คือรายได้ดอกเบี้ยจาก TPLUS ซึ่งเราคาดว่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตเป็น 6.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 61% YoY และ 10% Q0Q ในขณะที่ THANI จะค่อนข้างเติบโตคงที่ และ TNS เป็นปัจจัยฉุด เราคาดว่าเบี้ยประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 692 ลบ. ลดลง 9.2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2.7% Q0Q จากการตั้งสำรองกรมธรรม์ประกันภัยที่ลดลงจากการเติบโตของเบี้ยประกันปีแรกที่ลดลง

 

ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทฯ ย่อย รายได้ส่วนแบ่งกำไรหลักที่หนุน TCAP ได้แก่ ส่วนแบ่งกำไรจาก TTB และ MBKคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะอยู่ที่ 1.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 46.5% YoY และ 6% Q0Q TTB รายงานกำไรไตรมาส 3/2566 ที่ 4.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 46.5% YOY และ 6% Q0Q ซึ่งสร้างส่วนแบ่งกำไร 1.2 พันลบ.ให้กับ TCAP (TCAP ถือหุ้น 24.95% ใน TTB) และคาดว่า MBK จะแบ่งกำไรให้ TCAP ที่ 40 ลบ. เทียบกับส่วนแบ่งขาดทุน 70 ลบ. ในไตรมาส 3/2565 และส่วนแบ่งกำไร 13 ลบ. ในไตรมาส 3/2566

 

บล.กสิกรไทยน แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ที่ 65.6 บาท ประเมินมูลค่าดูน่าสนใจจากการซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.7 เท่า และ ROE ที่ 10.8% เทียบกับPBV เฉลี่ยของภาคธนาคารที่ 0.8 เท่า และ ROE ที่ 10.3% TCAP เป็นที่พักพิงสำหรับนักลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนจากแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลและการเติบโตของกำไรที่สูง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง