เทคโนโลยีปลูกพืชยุคใหม่ | TNN Tech Reports

ปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการเกษตรยุคใหม่ ซึ่งเข้ามาช่วยทั้งการบริหารจัดการแหล่งเพาะปลูก ช่วยให้แต่ละขั้นตอนมีความสะดวกสบาย รวดเร็ว และเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกว่าเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farm 

โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ของเกษตรกร และตอบโจทย์การทำเกษตรในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน การดูแลผลผลิตให้ได้คุณภาพ และเพียงพอต่อความต้องการของตลาด บทความนี้จะพาไปชมตัวอย่างนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากทั่วโลก ที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการเพาะปลูก โดยที่เกษตรกรไม่ต้องเปลืองแรงมากเท่าเดิม

FarmBot

FarmBot มีความสามารถหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นช่วยปลูกพืช ใส่ปุ๋ย หรือจะดูแลผลผลิตแทนเราก็ได้ ด้วยการทำงานร่วมกันของซอฟต์แวร์หรือส่วนที่เป็นระบบควบคุมการปลูกพืชอัตโนมัติ และฮาร์ดแวร์ ซึ่งเป็นส่วนของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่บริษัทพัฒนาขึ้น เช่น แขนกล หัวจ่ายน้ำ ระบบกล้องติดตามพืช

ผู้ใช้งานสามารถออกแบบและควบคุมการทำสวนผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์ต่าง ๆ สั่งได้ตั้งแต่เริ่มหย่อนเมล็ด ไล่นก กำจัดวัชพืช ทั้งหมดนี้ดูได้ผ่าน Interface หรือหน้าระบบใช้งานที่ออกแบบให้มีหน้าตาน่ารักคล้ายกับเกมปลูกผัก จากนั้นระบบจะสั่งการไปยังส่วนท่ีเป็นฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น แขนกล ที่สามารถทำได้ตั้งแต่หยิบเมล็ดไปปลูก, รดน้ำต้นไม้, ตรวจวัดสภาพดิน, พรวนดิน นอกจากนี้ยังมีกล้องสำหรับใช้ตรวจสอบสวนได้แบบเรียลไทม์ด้วย 

เบื้องหลังของการทำงานนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยีควบคุมเชิงตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ Computer Numerical Control ทำให้ผู้ใช้งานแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยจนกว่าจะถึงวันเก็บผลผลิต  สำหรับราคาของชุดช่วยทำสวนนี้ ผู้พัฒนาได้วางราคาแตกต่างกันออกไป เริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 57,000 บาท ไปจนถึง 179,000 บาท 

Grover & Phil & Max

Iron Ox คือหุ่นยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้ดูแลการทำฟาร์ม ตัวแรกมีชื่อว่า Grover เป็นหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่ขนส่งภาชนะบรรจุพืช ซึ่งจะใช้ระบบแขนกลในการยกกระถางที่ปลูกพืชผักสวนครัวต่าง ๆ ตัวหุ่นยนต์มีการติดตั้งระบบกล้องและเซ็นเซอร์ไลดาร์ LiDAR ช่วยในการเฝ้าสแกน เช็กคุณภาพผักที่ปลูก และสามารถยกน้ำหนักได้มากกว่า 1,000 ปอนด์ หรือประมาณ 450 กิโลกรัม ทำให้ขนย้ายแปลงผักไปยังจุดต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

ส่วน Phil เป็นหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เหมือนคนดูแลพืชอย่างใกล้ชิดในลักษณแขนกลอย่างที่เห็น โดยจะทำหน้าที่ควบคู่ไปกับโกรเวอร์ โดยเน้นไปที่การตรวจเช็กความต้องการของพืชแต่ละชนิด และส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ ร่วมกับการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ 

จากนั้นจะเป็นการทำงานของหุ่นยนต์เติมน้ำและสารเคมีอีกตัวที่ชื่อว่า Max มันก็จะเข้ารดน้ำและสารอาหารอื่น ๆ ให้ตรงความต้องการของพืชแต่ละชนิดที่ใช้ในการเจริญเติบโตตามปริมาณที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การทำงานของเจ้าหุ่นยนต์นี้เหล่านี้ ก็ยังมีข้อจำกัดคือยังคงต้องใช้มนุษย์ในการควบคุมการปลูกพืชอยู่ เพียงแต่มันจะเข้ามาช่วยลดปริมาณแรงคนลง โดยปัจจุบันบริษัทกำลังขยายฐานการผลิตไปยังรัฐเท็กซัส โดยคาดว่าด้วยการเกษตรแบบใหม่นี้ จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่า 100 เท่าในอีก 18 เดือนข้างหน้า

True Farm Grow

True Farm Grow จะช่วยทำให้เรื่องของเทคโนโลยีเป็นเรื่องง่าย มีประสิทธิภาพและใช้ได้จริงกับเกษตรกรทุกกลุ่ม เริ่มต้นตั้งแต่การเพาะเลี้ยงด้วยระบบให้น้ำและปุ๋ยอัจฉริยะ โดยใช้ระบบ Internet of Things เก็บรวบรวมและติดตามสภาพแวดล้อมของพืชที่เพาะปลูก โดยการเชื่อมต่อเซนเซอร์อุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์วัดความชื้นในดิน ความเข้มแสง อุณหภูมิ เวลา และสภาพอากาศ ผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตทรู 5G แล้วแสดงผลในแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน 

ผู้ใช้งานหรือเกษตรกรสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาวิเคราะห์การให้น้ำและปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงสั่งการเปิดปิดได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมี True Farm Drone โดรนสำรวจและพ่นยาอัจฉริยะ ที่จะเป็นตัวช่วยบินสำรวจและวัดความอุดมสมบูรณ์ของต้นพืชและดินด้วยเทคโนโลยี 5G เช่นเดียวกัน ทำให้สามารถส่งข้อมูลปริมาณมากด้วยความเร็วสูง ความหน่วงต่ำ เกษตรกรจึงติดตามการเจริญเติบโตของพืชได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อประมวลผลภาพและนำมาวิเคราะห์ปริมาณผลผลิต รวมถึงวิเคราะห์โรคพืชและศัตรูพืช หากพบความผิดปกติก็จะแจ้งเตือนและส่งข้อมูลไปยังโดรนฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ซึ่งสามารถฉีดพ่นได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง แม่นยำ มีประสิทธิภาพสูง ช่วยประหยัดต้นทุน และเพิ่มความปลอดภัยให้แก่เกษตร

โดยการทำงานของเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ ควบคุม ผ่าน DataVisor by True Digital แพลตฟอร์มอัจฉริยะ ที่ผสมผสานระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกจริงเข้าด้วยกัน มาพร้อมกับเทคโนโลยีพื้นฐาน ล้ำสมัย AI, Blockchain, Cyber Security, IoT, และ Analytics วิเคราะห์ข้อมูล ผ่านระบบการสื่อสารที่รวดเร็วและแม่นยำ อย่างทรู 5G โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้เกษตรกรไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพ และยั่งยืน