ติวเข้มแผนบูรณาการ อีอีซี เล็งปรับแผนลงทุนรับ “ไบเดน”
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. จัดประชุมชี้แจงส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น เรื่อง “ขับเคลื่อนแผนงานบูรณาการ อีอีซี ปี 2565 เดินหน้าต่อเนื่อง ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน” ร่วมกับ สำนักงบประมาณ โดยมี ผู้แทน 22 กระทรวง และ 120 หน่วยงาน เข้าร่วม
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กล่าวว่า ที่ผ่านมา สกพอ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมขับเคลื่อนแผนบูรณาการ อีอีซี ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของหน่วยงานจากส่วนกลางและท้องถิ่น ภาคเอกชนและภาคประชาชนทุกด้าน มาแล้ว 3 ปี เพื่อให้มีความพร้อมเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงกันแบบไร้รอยต่อ รวมทั้งการพัฒนาสาธารณูปโภค การพัฒนาคน เพื่อเตรียมความพร้อมในการชักชวนการลงทุน
สำหรับในปีงบประมาณ 2565 ยังคงสานต่อการพัฒนาคนให้ตรงกับความต้องการของตลาด การสร้างรายได้สูงขึ้น โดยเน้น 4 เรื่องหลัก คือ การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร และการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เป้าหมาย อีอีซี ลงทุนปีละ 3 แสนล้านบาท โดย สกพอ. ใช้งบบูรณาการจากหน่วยงานต่างๆ ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เร่งรัดการลงทุน เพื่อให้ภาคเอกชนนำเงินมาลงทุนตามเป้าหมาย สำหรับแผนบูรณาการในปี 2565 คาดว่า จะแล้วเสร็จต้นเดือนมกราคม 2564
พร้อมกันนี้ เลขาธิการ อีอีซี เตรียมหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พิจารณาแนวทางการปรับแผนการลงทุน อีอีซี ระยะ 5 ปี คือ ปี 2563-2567 ใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะ นโยบาย โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนใหม่ ที่จะส่งผลบวกต่อการลงทุนที่คาดว่าจะมีทิศทางที่เพิ่มขึ้นจากแผนเดิม โดยเรื่องที่ อีอีซี ต้องดูแล คืออุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนา 5G รองรับการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ ที่จะเอื้อต่อการลงทุนในพื้นที่ อีอีซี