วัดกำลังThailand Focus ดึงฟันด์โฟลว์หนุนSET

#ฟันด์โฟลว์ #MSCI #ทันหุ้น – นักวิเคราะห์ประเมินฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังมีโอกาสไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐลดลงและค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ MSCI และปัจจัยการเมืองในประเทศมีผลกระทบน้อยต่อการลงทุน แนะทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดย่อ จับตางาน Thailand Focus 27–29 สิงหาคม 2568 หนุน Sentiment และเม็ดเงินลงทุนเข้าตลาด
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่าภาพรวมเงินทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทยหรือ ฟันด์โฟลว์หากดูยอดสุทธิในเดือนปัจจุบันคือสิงหาคม 2568 ยังมีโอกาสเป็นฝั่งซื้ออยู่ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่ แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ และยังส่งผลให้เงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทด้วย
ส่วนการปรับทบทวนรายชื่อหุ้นที่นำไปคำนวณดัชนี MSCI ซึ่งจะเริ่มมีผลปิดตลาดหุ้นวันที่ 26 สิงหาคมนี้ โดยไม่มีหุ้นที่เข้าคำนวณ ดัชนี MSCI Thailand ขณะที่มีหุ้นที่นำออกจากกลุ่มดัชนี ได้แก่ HMPRO, OR ส่วนดัชนี MSCI Global Small Cap มีหุ้นที่เข้าคำนวณ ได้แก่ KTC, HMPRO และหุ้นที่นำออก ได้แก่ ICHI, SISB และ TPIPL นั้นย่อมมีผลกระทบต่อหุ้นทุกตัวที่จะถูกประกาศปรับออก
ด้านประเด็นความกังวลการเมืองประเมินในขณะนี้ยังน้ำหนักต่อการตัดสินใจของนักลงทุนต่างชาติค่อนข้างน้อยกว่าปัจจัยแวดล้อมอื่น อย่างไรก็ดีสำหรับระยะสัปดาห์สุดท้ายเดือนสิงหาคมนี้ SET Index มีกรอบแนวรับอยู่ที่ 1,235 และ แนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,275 จุด
*เก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า โอกาสความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนกันยายน 2568 จากเครื่องมือ FED Watch Tool เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 81% จากก่อนที่จะแถลง ซึ่งอยู่บริเวณ 72% คาดจะเป็นแรงหนุนเก็งกำไรเพิ่มเติมในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
ขณะที่ความคืบหน้าประเด็นการเมืองในประเทศ หลังศาลอาญา ได้พิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในคดีที่ถูกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไปแล้ว สิ่งที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้เป็นประเด็นศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณี นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร ถูกร้องประเด็นคลิปเสียงการสนทนา ในวันที่ 29 สิงหาคม 2568 รวมไปถึงตัวเลขส่งออกไทยวันนี้ และการปรับพอร์ต MSCI จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนให้ใช้จังหวะตลาดย่อเป็นโอกาสในการทยอยสะสม
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สภาพคล่องมีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยต่อจากหลายมุมทั้งปัจจัยภายนอกและในประเทศ โดยเม็ดเงินมีการไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง จากความคาดหวังวัฏจักรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง, ฟันด์โฟลว์มีโอกาสไหลหนุนหุ้นไทย จากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต่างชาติ
ได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม อีกทั้งเวลามีประเด็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ตลาดหุ้นไทยมักจะขึ้นได้ดีราว 10% ในช่วงเวลา 2 เดือน
*ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อฟันด์โฟลว์ว่า ทิศทางนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของ Fed ซึ่งกระตุ้นให้เงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นกลุ่ม Emerging Markets ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีจุดแข็งในเชิง Valuation อีกทั้งทั้งหากมองไปข้างหน้างาน Thailand Focus ปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 สิงหคม 2568 จะเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ช่วยหนุน Sentiment และดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้อย่างมีนัยสำคัญเช่นเดียวกับสถิติในอดีต
ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศได้พบปะกับบริษัทจดทะเบียนโดยตรง จากสถิติในช่วงหลัง COVID-19 (ปี 2564 - 2567) พบว่า SET Index มักให้ผลตอบแทนเชิงบวกเฉลี่ย 0.7% ระหว่างการจัดงาน และสามารถปรับขึ้นต่ออีกเฉลี่ย 1.5% ในช่วง 5 วันทำการถัดไป ด้วยความน่าจะเป็นสูงถึง 75%
จากการศึกษาสถิติย้อนหลังระหว่างปี 2564–2567 พบว่า Thailand Focus สร้างโอกาสในการเก็งกำไรระยะสั้น โดยกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดคือ “ซื้อก่อนงานเริ่ม 3 วันทำการ และขายหลังงานจบ 5 วันทำการ” นอกจากนี้ หุ้นที่เข้าร่วมงานยังมีแนวโน้ม Outperform ตลาด โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.9% ในช่วงเวลาดังกล่าวในเชิงกลยุทธ์ คัดกรองหุ้นที่เข้าร่วมในงานได้หุ้นเป้าหมายสำหรับเก็งกำไรดังนี้ CPN, COM7, CBG, AWC, MTC และ WHA
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
