กระบี่-ฮือฮา นอภ.ชวนเที่ยว ถ่ายติดหินผาหน้าปิศาจ (ชมคลิป)
กระบี่-ฮือฮา นอภ.ชวนเที่ยวกระบี่ แวะเที่ยวเขาขนาบน้ำถ่ายภาพหินผาหน้าปิศาจ ดินแดนลี้ลับทางประวัติศาสตร์
วันที่ 24 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวุฒิ บัวทอง นายอำเภอเมืองกระบี่ จ.กระบี่ ได้นำคณะเดินทางตรวจความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่ ต.คลองประสงค์ อ.เมือง ตามโครงการนายอำเภอเมืองกระบี่ชวนเที่ยว วันเดียวเที่ยวคลองประสงค์ เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ในวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค.นี้ ตามแบบฉบับ New Normal ในช่วงวิกฤติโควิด 19 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยทางคณะนายอำเภอเมืองกระบี่ได้ออกเดินทางด้วยเรือหางยาวจากหน้าเมืองกระบี่ ไปยังเขาขนาบน้ำ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่มีตำนานเล่าขานทั้งเรื่องลี้ลับ และเชิงประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะนั่งเรือต่อไปยังถ้ำลอดป่าโกงกาง ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 500 เมตร และไปสิ้นสุดที่ร้านค้าชุมชนคลองวาน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า มีเรื่องราวชวนฮือฮา ขนหัวลุก เมื่อคณะที่ร่วมเดินทางไปกับนายอำเภอเมืองกระบี่ ถ่ายติดภาพหน้าผาเขาขนาบน้ำ มีรูปร่างคล้ายกับหน้าปิศาจ ตาโบ๋ ลิ้นห้อยยาว ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา บ้างก็ว่าคล้ายกับกะโหลกคน หรือลิง บ้างก็ตั่งชื่อให้ว่าหน้าผาปิศาจ ซึ่งจากการสอบถามกำนัน ต.คลองประสงค์ ทราบว่า ที่บริเวณหน้าผา ข้างในมี้ถ้ำ เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาว จำนวนมาก ก่อนนี้ชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง จะเข้ามาเอามูลค้าง เพื่อไปทำปุ๋ย ใส่พืชผัก แต่ไม่เคยมีใครถ่ายภาพจากด้านนอกเข้ามาหาหน้าผา ซึ่งเมื่อถ่ายภาพออกมาดูแล้วคล้ายกับกะโหลก ขณะที่ นายประดิษฐ์ จันทร์ทอง นายก อบต.คลองประสงค์ กล่าวว่า สำหรับเขาขนาบน้ำ มีตำนานเรื่องเล่ามากมาย และเป็นที่เล่าขานกันมาตลอดยาวนาน ก็คือมียักษ์ ที่อาศัยอยู่ในถ้ำถูกงูยักษ์ รัดจนตาย ซึ่งปัจจุบันนี้ ทางศิลปิน ได้ปั้นปฎิมากรรมไว้ในถ้ำ สร้างความฮือฮาแก่ผู้พบเห็นและนักท่องเที่ยว
ด้านนายชัยวุฒิ บัวทองนายอำเภอเมืองกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการจัดโครงการนายอำเภอชวนเที่ยว เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวได้อย่างแพร่หลาย ในวันนี้ ได้นำคณะมาเที่ยว ต.คลองประสงค์ และจะเดินทางไปที่เที่ยวต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักและเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและคนในพื้นที่ หลังวิกฤติโควิด 19