‘ไบเดน’ทำเป็นตัวอย่างรับวัคซีนเข็ม 3 หวังกระตุ้นชาวอเมริกัน
วันนี้ ( 28 ก.ย. 64 )ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ พับแขนเสื้อฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิป้องกันโควิด-19 ในวันจันทร์ หลังจากรัฐบาลเพิ่งอนุมัติการแจกจ่ายวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 3 จากบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) ให้กับชาวอเมริกันเฉพาะกลุ่มไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยไบเดนหวังว่า จะเป็นตัวอย่างที่ทรงพลังสำหรับชาวอมริกันให้เห็นถึงความจำเป็นในการรับวัคซีนเข็มพิเศษนี้ ขณะที่ยังมีประชาชนอีกหลายล้านคนไม่ยอมฉีดวัคซีนเข็มแรก
ในการเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 ไบเดนปฏิเสธเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า สหรัฐฯควรจะแจกจ่ายวัคซีนไปทั่วโลกมากกว่านี้ ก่อนอนุญาตให้มีการฉีดเข็มที่ 3 ในประเทศ และก่อนฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไบเดน ยังได้พูดกับผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวว่า “วัคซีนกรตุ้นภูมิ หรือบูสเตอร์นั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การฉีดวัคซีนเข็มแรก ให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น”
ผู้นำสหรัฐฯระบุว่า ในเวลานี้ มีประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ราวร้อยละ 77 ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 1 เข็มแล้ว พร้อมย้ำ หลังการฉีดวัคซีน ว่า “ไม่มีทางที่ประชาชนจำนวน 1 ใน 4 ของประเทศ จะไม่ได้รับวัคซีน”
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ทำการอนุมัติการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3ให้กับประชากร 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป, ผู้ที่ปฏิบัติงานในด่านหน้า เช่น ครู เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข และผู้ที่ทำงานในส่วนที่มีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อโควิด-19 รวมทั้ง ผู้ที่มีอายุ 50 ถึง 64 ปีและมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว
สหรัฐฯ จะฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับผู้ที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค ครบโดสแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน โดยทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า มีชาวอเมริกันราว 20 ล้านคนที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 ทันที ขณะที่มีผู้มีสิทธิ์อีกราว 60 ล้านคนที่จะได้รับวัคซีนนี้หลังรอครบกำหนด 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
ไบเดน ประกาศไว้ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม ว่า ตนต้องการจะเห็นชาวอเมริกันทุกคนได้รับวัคซีนเข็ม 3 ในเวลาที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์เดลตา
แต่แผนดังกล่าวต้องชะงักไปช่วงหนึ่ง หลังคณะที่ปรึกษาของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ปฏิเสธคำขอให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิให้กับประชาชนชาวอเมริกันทุกคน ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีหลักฐานพิสูจน์เรื่องความปลอดภัยและประโยชน์ของวัคซีนเข็มที่ 3 มากพอ จนกระทั่ง คณะทำงานอิสระที่ดูแลเรื่องนี้อนุมัติการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะล้มป่วยหนักหากติดเชื้อโคโรนาไวรัส ก่อนที่ CDC จะแนะนำให้เพิ่มกลุ่มผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานที่มีความเสี่ยงติดเชื้อเข้าไปด้วย
อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 และขอให้สหรัฐฯ รวมทั้งประเทศอื่น ๆ ที่มีแผนดังกล่าวระงับการเดินหน้าฉีดวัคซีนไปก่อน เพื่อนำส่งวัคซีนที่มีเหลือไปยังอีกหลายประเทศที่ยังขาดแคลนอยู่และเมื่อสอบถามผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับคำร้องขอขององค์การอนามัยโลก ไบเดน กล่าวในวันจันทร์ว่า สหรัฐฯ นั้น “ทำหน้าที่ของตนมากกว่าที่หลายประเทศร่วมกันทำ” เพื่อส่งวัคซีนไปยังนานาประเทศทั่วโลกแล้ว