ตร.วังน้ำเขียว เร่งจัดชุดสืบสวนคลิปโป๊ ยันดำเนินคดีถึงที่สุด ชี้ผิดพ.ร.บ.คอม

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการนำคลิปโป๊มาเผยแพร่ทางไลน์ จนเป็นที่ฮือฮาสนั่นโลกโซเชียล ซึ่งในคลิป Only fan ที่ส่งแชร์ออกไปมีจำนวน 3 คลิปความยาวคลิปละประมาณ 4 นาที ต้นคลิประบุข้อความว่า “วังน้ำเขียวเสียว..” และในคลิปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันในห้องพักของรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยหลังจากคลิปโป๊ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายภาคส่วนใน อ.วังน้ำเขียว ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ ได้ออกมาตรวจสอบกันเป็นการเร่งด่วนนั้น

ล่าสุด วันนี้ (14 มิถุนายน 2565) พ.ต.อ.พีรพงศ์ ธนโพธิ์ชัย ผกก.วังน้ำเขียว เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ สภ.วังน้ำเขียว ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนนี้แล้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จิตรกร โพธิ์คำ รอง ผกก.สอบสวน สภ.วังน้ำเขียว จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปยังสถานที่รีสอร์ทที่มีการถ่ายทำคลิปวีดีโอดังกล่าวแล้ว โดยได้ทำการสอบสวนเจ้าของสถานที่ ซึ่งเจ้าของสถานที่ให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือให้การสนับสนุนในการถ่ายทำคลิปวีดีโอดังกล่าว สำหรับการสืบสวนขั้นต่อไป ทาง สภ.วังน้ำเขียวจะประสานไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อขอความช่วยเหลือสนับสนุนไปยัง  กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อช่วยในการสืบสวน เพราะคลิปดังกล่าวได้ถ่ายไว้นานแล้ว จึงอาจจะโดนลบออกไปจากระบบแล้ว ขณะนี้จึงยังไม่ทราบว่าผู้ที่ถ่ายคลิปเป็นใคร

อย่างไรก็ตาม หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวผู้ถ่ายคลิปมาสอบสวนได้แล้ว ก็พร้อมที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากการนำภาพหรือคลิปของตนเองในลักษณะลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ หรือเว็บไซต์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน รวมถึงกลุ่มลับต่างๆ ที่เปิดรับสมาชิกและมีการเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่ม เพื่อรับชมคลิป หรือภาพลามกอนาจาร โดยผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ผลิต หรือผู้นำคลิปไปเผยแพร่ ได้รับประโยชน์ใดๆ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ นำเข้า ผลิต เผยแพร่สื่อลามกอนาจารฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 287(1) นอกจากนี้ การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วย