SEAFCO งานรถไฟฟ้าหนุน ปีหน้าคาดกำไร โบรกแนะซื้อ
#SEAFCO #ทันหุ้น - บล.ดาโอ มอง SEAFCO แนวโน้ม 4Q23 มีโอกาสดีกว่าคาด คงกำไรปกติปี 2023 ที่ 155 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนปกติปี 2022 ที่ -131 ล้านบาท
แนวโน้มเติมงานใหม่ยังดี บล.ดาโอมองเป็นบวกจากงานประชุม SET Opportunity Day เมื่อวันจันทร์ (4 ธ.ค.) โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
1) คงเป้ารายได้ปี 2023 ที่ 1.8 พันล้านบาท (เราคาด 1.8 พันล้านบาท โต +135% YoY) และปี 2024ที่ 2 พันล้านบาท คาด 1.9 พันล้านบาท โต +5% YoY) จาก backlog ปัจจุบันยังอยู่ในระดับดีที่ 1 พันล้านบาท และมีงานรอเซ็นสัญญาอีกอย่างน้อย 200 ล้านบาท ขณะที่ยังมี่โอกาสสูงในการเติมงานใหม่อื่นๆ
2) แนวโน้ม 4023E จะทรงตัวดี Q0Q หลังอัตราการใช้เครื่องจักรปัจจุบันทรงตัวใกล้เคียง 3Q23 ที่70-80% หนุนโดยงานสายสีม่วงใต้และการเริ่มงานใหม่อื่นๆ ขณะที่คาดการณ์จะไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ
3) สำหรับความคืบหน้างานรถไฟฟ้าที่บังกลาเทศ ปัจจุบันผู้รับเหมาหลักได้เริ่มขั้นตอนเข้าประมูลแล้ว ทำให้คาดการณ์ว่าจะเห็นความชัดเจนการเข้ารับงาน subcontract ในปี 2024
4) แนวโน้มปี 2023 จะกลับมาจ่ายปันผลในรอบ 3 ปี (เราคาด DPS ปี 2023 ที่ 0.10 บาท/หุ้น)
คงประมาณการ ปี 2023E/24 แต่แนวโน้ม 4Q23 มีโอกาสดีกว่าคาด บล.ดาโอคงกำไรปกติปี 2023 ที่ 155 ล้านบาท พลิกฟื้นจากขาดทุนปกติปี 2022 ที่ -131 ล้านบาท และปี 2024 ที่ 159 ล้านบาท (+3% YoY) อย่างไรก็ตามเรามองว่าแนวโน้ม 4Q23 มีโอกาสดีกว่าคาด โดยเบื้องต้นประเมินกำไรปกติจะอยู่ในกรอบราว 50-60 ล้านบาท (เดิมคาดที่ 40 ล้านบาท) ฟื้นตัวสูงจาก 4Q22 ที่ 10 ล้านบาท แต่อาจทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยจาก 3Q23 ที่ 62 ล้านบาท หนุนโดยอัตการใช้เครื่องจักรยังทรงตัวดีจากงานสายสีม่วงใต้และการเริ่มงานใหม่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีศรีรัช-เมืองทองธานี และงานระบบบำบัดน้ำเสียธนบุรีและสวนสาธารณะ เริ่มงานกลาง พ.ย. 2023 เป็นต้น แต่คาดถูก offset บางส่วนโดยผลกระทบวันหยุดยาวในช่วงสิ้นปี
คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมาย 4.50 บาท อิง 2024E PBV 2X (-1SD below 5-yr averagePBV) จากกำไรปี 2024 จะขยายตัวต่อและมีโอกาสดีกว่าคาด หลังบริษัทมีการแจ้งเข้ารับงานใหม่ต่อเนื่อง นอกจากนี้มี catalyst จากโครงการสายสีส้ม ซึ่งเรามองว่าบริษัทมีโอกาสได้ส่วนแบ่งงานสูง