เร่งค้นป่าช่วย"พลายหนูซิง"โดนยิงสาหัส คาดฝูงช้างช่วยประคองหนีเข้าป่าลึก
เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พร้อม สัตวแพทย์ ระดมกำลังหาพลายหนูซิง ช้างป่าถูกยิงแผลเหวอะเจ็บสาหัส คาดฝูงช้างป่าช่วยประคองหนีเข้าป่าลึก เร่งรีบช่วยก่อนไม่รอด
วันที่ 16 พ.ย.2564 นายวีระพงศ์ โคระวัตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยความคืบหน้าจากกรณีช้างป่า พลายหนูซิง อายุ 20 ปี ถูกชาวบ้านยิงด้วยปืนลูกซองกระสุนฝังในร่างกายหลายสิบนัด มีแผลฉกรรจ์ทั่วทั้งตัวได้รับบาดเจ็บตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา
นายวีระพงศ์ เปิดเผยว่า ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อม สพ.ญ.สุนิตา วิงวอน สัตวแพทย์ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ลงพื้นที่ไร่อ้อย ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณที่พบช้างนอนบาดเจ็บล่าสุด แต่ปรากฏว่าไม่เจอพลายหนูซิงแล้ว เจ้าหน้าที่จึงใช้โดรนบินตามหาตัว แต่ยังไม่พบเจอแต่ร่องรอยการเดินมุ่งหน้าเข้าป่าร่วมกับช้างตัวอื่นๆในฝูง ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า มีช้างในฝูงเดียวกัน มาช่วยกันประคอง พลายหนูซิงเข้าป่าไปแล้ว
ด้านสพ.ญ.สุนิตา กล่าวว่า จากการสังเกตรูปที่ถ่ายได้จากโดรน พบพลายหนูซิง มีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งมาก กระสุนปืนลูกซองกระจายไปทั่วทั้งตัว ทั้ง กลางหลัง ข้างลำคอ ใบหูทะลุเป็นรู ขาหน้า 2 ข้าง และบริเวณโคนงวง ซึ่งบาดแผลบริเวณกลางหลังนั้น พลายหนูซิง ได้ใช้งวงดูดเอาโคลนมาโปะ เพื่อรักษาตัวเอง และบรรเทาความเจ็บปวดแล้ว แต่เชื่อว่าบาดแผลขนาดนี้อีก 2-3 ก็จะเกิดการอักเสบรุนแรง
" โดยเฉพาะบริเวณกลางหลัง แผลอาจจะลามเข้าไปถึงกระดูกสันหลังได้ เคสนี้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปรักษาให้ได้ เพราะเป็นการบาดเจ็บที่ถูกกระทำโดยมนุษย์ ไม่ใช่บาดเจ็บโดยการเจ็บป่วยตามธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ตามหากันอย่างเร่งรีบสุดฝีมือ เพราะหากปล่อยไว้พลายหนูซิงมีโอกาสเสี่ยงถึงชีวิต หมอเองก็อยากหาเขาให้เจอในเร็ววัน เพราะอย่างน้อยขอให้ได้มีโอกาสรักษา ดีกว่าปล่อยให้ตายทรมานอยู่กลางป่าซึ่งจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างมาก " สพ.ญ.สุนิตา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับ ต.ทุ่งพระยา ที่มักจะเจอพลายหนูซิงนั้น มีสวนปาล์ม ไร่ อ้อย และป่ายูคาลิปตัส ซึ่งมักจะมีฝูงช้างประมาณ 100 ตัว ไปๆมาๆบริเวณนี้เสมอ รวมทั้งมักจะมีความขัดแย้ง ระหว่าง ชาวบ้านกับฝูงช้างป่า เพราะฝูงช้างมักจะเข้าไปไปกินและทำลายพืชผลของชาวบ้าน