โดนัลด์ ทรัมป์ กับ “ศิลปะแห่งข้อตกลง” เจาะ 24 ชั่วโมงป่วนโลก ที่ผู้นำสหรัฐฯ ใช้เพียงคำพูดและมือถือ

วันปลดแอกอเมริกา มีอายุไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังง 11 นาฬิกาเวลาไทย ที่ภาษีต่างตอบแทนของทรัมป์กับ 60 ประเทศ/ดินแดน รวมถึงไทย มีผลบังคับใช้
เพราะเลยเที่ยงคืนมาเล็กน้อย ทรัมป์ก็ประกาศระดับการขึ้นภาษีไป 90 วัน
แต่สำหรับจีนนั้น ภาษีพุ่งสูงเป็น 125% ในเวลา 24 ชั่วโมงเช่นกัน และ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง
9 เมษายน 2568
เวลา 11.00 น. - ภาษีต่างตอบแทน ที่ทรัมป์ประกาศว่าจะสร้างตำนานให้อเมริกา มีผลบังคับใช้กับ 60 ประเทศ/ดินแดน
ไทยเจอภาษี 36% จีนหนักสุด 104% เพราะทบภาษีเก่าบวกภาษีต่างตอบแทน บวกเพิ่มกับภาษีที่ทรัมป์ประกาศอีก 50%
14.00 น. – จีนไม่ยอมแพ้ ยืนกรานว่า จะใช้ภาษีนำเข้ากับสินค้าอเมริกัน 84%
15.00 น. – พอตลาดหุ้นฝั่งยุโรปเปิด ก็เกิดความปั่นป่วนทันที ร่วงกราวทั้งกระดาน
18.00 น. ทรัมป์ ไม่ลดละ ประกาศขึ้นสินค้าขนาดเล็กจีน จาก 30% เป็น 90% อีก มีผลวันที่ 2 พฤษภาคม
19.00 น. - และผ่านมาเพียงชั่วโมง ทรัมป์ก็โพสต์ในโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้บริษัทอเมริกันและต่างชาติ เข้ามาตั้งฐานการผลิตในสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาษี เพราะ “นี่คือเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่จะเข้ามาในอเมริกา”
20.55 น. – โลกเริ่มสับสน เพราะจู่ ๆ ทรัมป์ก็โพสต์ว่า “Be Cool” หรือ “ใจเย็น ๆ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง”
ส่วนจีนนั้น เตือนนักท่องเที่ยวจีนเลยว่า จะไปอเมริกาก็ให้ประเมินความเสี่ยงดี ๆ เพราะความสัมพันธ์กำลังแย่วิกฤต
วันที่ 10 เมษายน 2568
00.00น. - เที่ยงคืนตรงเวลาไทย ทรัมป์เล่นงานจีนหนักอีก ขึ้นภาษีจาก 104% เป็น 125%
ก่อนจะประกาศว่า จะระงับการขึ้นภาษีประเทศส่วนใหญ่ออกไป 90 วัน เพื่อเปิดช่องเจรจา ยกเว้นจีน ที่จะเจอภาษีหนักต่อไป
ดังนั้น ถ้านับกันจริง ๆ การขึ้นภาษีที่ทรัมป์ประกาศว่าจะปลดแอกอเมริกา และสร้างตำนาน มีอายุเพียงแค่ 13 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่ทรัมป์ระงับภาษีทั่วโลก รวมถึงไทย ยกเว้นจีน ก็เพราะ ไม่อยากทำร้ายประเทศที่ไม่สมควรถูกทำร้าย
แถมรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เผยด้วยว่า ทรัมป์ตั้งใจทำแบบนี้อยู่แล้ว เพื่อกดดันจีนให้หนัก
ความโกลาหลทั้งหมดนี้ น่าสนใจว่า มันเกิดจากคำพูด และปลายนิ้วกดมือถือ โพสต์โซเชียลของทรัมป์ทั้งนั้น
โฆษกทำเนียบขาวยังชี้เลยว่า นี่แหละศิลปะแห่งข้อตกลงของทรัมพ์ ที่สื่อพลาดไปเสียแล้ว
ไม่ต้องมีกองทัพสื่อ ไม่ต้องถ่ายทอดสด ไม่ต้องจัดประชุมใหญ่อะไรใหญ่โต แค่ทรัมป์หารือกับคนสนิท ถ่ายรูปด้วยมือถือ และพิมพ์โพสต์ลงไปในสังคมออนไลน์ โลกก็ปั่นป่วนได้ถึงขนาดนี้