อาร์เมเนีย-อาเซอร์ไบจาน ตกลงหยุดยิงอีกรอบ

วันนี้ (18 ต.ค.63) อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน แถลงว่า พวกเขาตกลงเห็นชอบร่วมกันในวันเสาร์ หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมครั้งใหม่นับจากเที่ยงคืนเป็นต้นไป ยุติการสู้รบแย่งชิงภูมิภาคนากอร์โน-คาราบัคห์ ที่อยู่ในดินแดนของอาเซอร์ไบจาน แต่ยึดครองโดยชนกลุ่มน้อยชาวอาร์เมเนีย หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเริ่มต้นโจมตีครั้งใหม่ก่อน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มีรัสเซียเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย ล้มเหลวไม่สามารถยุติการต่อสู้กันที่เลวร้ายที่สุดในคอเคซัสใต้ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990

อาเซอร์ไบจาน แถลงว่า มีพลเรือนเสียชีวิต 13 คนและบาดเจ็บอีกมากกว่า 50 คน ในเมืองกันจาหลังจากถูกยิงโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายลูกจากดินแดนพิพาท นากอร์โน-คาราบัคห์ ส่วนอาร์เมเนีย ซึ่งสนับสนุนทางการเมืองและเศรษฐกิจในนากอร์โน-คาราบัคห์ และส่งอาสาสมัครเข้าประจำการในกองทัพนากอร์โน-คาราบัคห์ กล่าวหาอาเซอร์ไบจานว่ายิงปืนใหญ่ถล่มพื้นที่ชุมชนที่มีประชาชนหนาแน่นในนากอร์โน-คาราบัคห์และทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายในอาร์เมเนีย

การยิงต่อสู้กันครั้งนี้ ถือว่าหนักหน่วงที่สุดในภูมิภาคตั้งแต่อาเซอร์ไบจานและกองทัพชนกลุ่มน้อยอาร์เมเนีย เข้าสู่สงครามในช่วงทศวรรษที่ 1990 จากกรณีพิพาทเหนือดินแดนนากอร์โน-คาราบัคห์ ที่นานาชาติให้การยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาเซอร์ไบจาน แต่ประชากรส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายอาร์เมเนียและบริหารโดยชนกลุ่มน้อยอาร์เมเนียด้วย 

นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานทางโทรศัพท์เมื่อวันเสาร์ และย้ำว่า ข้อตกลงหยุดยิง ที่เขาเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยเมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ต้องได้รับการปฏิบัติตาม 

ทั้งนี้ รัสเซีย, ฝรั่งเศสและสหรัฐ เป็นสมาชิกของกลุ่มมินส์ก ซึ่งทำหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี