น้ำท่วมภาคอีสาน: ผลกระทบ สาเหตุ และมาตรการรับมือของรัฐบาล
ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2567 หลายพื้นที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้าง บทความนี้จะวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด สาเหตุ และมาตรการรับมือของรัฐบาล รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือกับปรากฏการณ์ลานีญาที่กำลังจะมาถึง
สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด
ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เผยว่าพื้นที่น้ำท่วมขังรวมทั้งสิ้น 118,621 ไร่ ครอบคลุม 4 จังหวัดหลัก ได้แก่ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ พิษณุโลก และขอนแก่น โดยมีพื้นที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบถึง 2,843 ไร่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือจังหวัดมหาสารคาม โดยเฉพาะในอำเภอบรบือและวาปีปทุม ซึ่งมีน้ำท่วมครอบคลุมพื้นที่ 11 ตำบล ส่งผลกระทบต่อชุมชนที่อยู่อาศัย พื้นที่เกษตรกรรม และเส้นทางคมนาคมบางส่วน
สาเหตุของน้ำท่วม
สาเหตุหลักของน้ำท่วมครั้งนี้มาจากหลายปัจจัย ประการแรก เกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคเหนือบางส่วน อันเป็นผลมาจากดีเปรสชั่นที่สลายตัวเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ประการที่สอง เกิดเหตุการณ์ทำนบดินชั่วคราวขาดบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงคำ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ทำให้น้ำไหลหลากอย่างรวดเร็วไปยังพื้นที่ด้านท้ายน้ำ นอกจากนี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังส่งผลให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่
การสั่งการของรัฐบาล
รัฐบาลโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ดำเนินมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ การเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วม การตรวจสอบความพร้อมของเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเพื่อเตรียมรับน้ำหลากในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
มาตรการรับมือระยะยาว
สทนช. ได้วางแผนมาตรการรับมือระยะยาวเพื่อบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยแผน 10 มาตรการรองรับฤดูฝน การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงภัย และการบริหารจัดการน้ำแบบทั้งระบบลุ่มน้ำ นอกจากนี้ ยังมีการบูรณาการงานร่วมกับหน่วยงานด้านน้ำทุกหน่วยผ่าน 3 กลไกหลัก ได้แก่ กลไกบริหารจัดการน้ำก่อนเริ่มฤดู ระหว่างฤดู และตลอดฤดู เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำมีประสิทธิภาพสูงสุด
การเตรียมรับมือปรากฏการณ์ลานีญา
ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. คาดการณ์ว่าปรากฏการณ์ลานีญาจะส่งผลชัดเจนยิ่งขึ้นในเดือนสิงหาคม ซึ่งอาจทำให้มีปริมาณฝนและน้ำท่ามากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยปกติ สทนช. จึงได้เตรียมความพร้อมโดยใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่การเกษตรให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที
สถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสานและพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทยครั้งนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพอากาศที่แปรปรวนและความเสียหายของโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมทั้งวางแผนระยะยาวเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคตและปรากฏการณ์ลานีญาที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการติดตามข้อมูลข่าวสารและการปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงานภาครัฐ จะเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเหล่านี้ ความท้าทายที่สำคัญคือการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ และการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในการเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ภาพ : ผู้สื่อข่าว จ.ขอนแก่น