‘อินโนบิก เอเซีย’ จับมือ ‘โนฟ ฟู้ดส์’ เจาะตลาดอาหารโปรตีนจากพืช ตั้งเป้าเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) มีมติเห็นชอบจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (บริษัทย่อยที่ ปตท. ถือหุ้น 100%) และ บริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด (บริษัทย่อยที่ NRF ถือหุ้น 100%) ในสัดส่วนการถือหุ้นที่เท่ากันบริษัทละ 50% เพื่อดำเนินธุรกิจพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืชแบบครบวงจร ตั้งเป้าจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่แล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2564 ด้วยทุนจดทะเบียนประมาณ 300 ล้านบาท พร้อมจัดตั้งโรงงานผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนำเข้าชั้นสูงในไทย ด้วยกำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี รวมไปถึงการพัฒนาร้านค้าต้นแบบ คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2565 โดยผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช (Plant–based Protein) ผลิตจากพืชที่ให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว เห็ด สาหร่าย อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต โดยใช้เทคโนโลยีกระบวนการแปรรูปสมัยใหม่มาพัฒนารสชาติ รูปลักษณ์ กลิ่น และผิวสัมผัสให้ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารกลยุทธ์กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด เปิดเผยว่า โปรตีนเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ทั้งในเด็ก วัยทำงาน ผู้สูงวัย ตลอดจนผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพต้องการโปรตีนในรูปแบบและปริมาณที่เหมาะสมไม่เหมือนกัน การลงทุนในครั้งนี้จึงตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อโภชนาการ และโภชนเภสัช ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่อินโนบิก (เอเชีย) ได้ตั้งเป้าหมายไว้ นอกเหนือจากการดูแลรักษาสุขภาพแล้วยังเป็นการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่เพื่อเป็นวัตถุดิบให้กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต รวมทั้งเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนในธุรกิจใหม่ด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต (Life Science) ของ ปตท.
นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้ถือเป็นการรองรับโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของ NRF และถือเป็นกลยุทธ์ในการส่งเสริมธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารโปรตีนจากพืช ปัจจุบัน NRF เตรียมขยายกำลังการผลิตเพื่อพร้อมรองรับการผลิตอาหารที่มีความหลากหลายมากขึ้นในอนาคต ทำให้เกิดการประหยัดต่อหน่วย ลดต้นทุนการผลิตต่อชิ้น เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตภัณฑ์ด้านอาหารโปรตีนจากพืชในไทยมีโอกาสสร้างอัตรากำไรที่ดีขึ้นและมีอัตราการเติบโตที่ก้าวกระโดดจากเดิมที่ 2–10% ไปสู่ระดับ 10–35% และคาดว่ามูลค่าตลาดอาจแตะระดับ 4.5 หมื่นล้านบาทในปี 2567 ซึ่งเชื่อว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารโปรตีนทางเลือกในระดับโลก
ทั้งนี้ อินโนบิก (เอเซีย) และ โนฟ ฟู้ดส์ เชื่อมั่นว่าการร่วมทุนเพื่อรุกตลาดกระแสสุขภาพและความยั่งยืนด้านอาหารของโลกในครั้งนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นไปสู่ความร่วมมือการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับโปรตีนชนิดใหม่ๆ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางด้านอาหารในอนาคต ซึ่งจะทดแทนการทำปศุสัตว์ โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจนี้ของภูมิภาคร่วมกัน ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตรกรรมของไทยโดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนการสร้าง New S–Curve ของประเทศ สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน