ไม่ถูกสุขลักษณะ! เตือนกิน "สิ่งปฏิกูล" ในร่างกาย เสี่ยงติดเชื้อโรค

วันนี้( 9 พ.ค.65) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า การที่ประชาชนกินสิ่งปฏิกูลทางร่างกาย ไม่ควรกินเป็นอย่างมากเพราะไม่ถูกสุขลักษณะ และอาจจะส่งผลในเรื่องของโรคติดต่อตามมา โดยเฉพาะอุจจาระ ที่มีเชื้อแบคทีเรีย พยาธิ โรคบิด และโรคอหิวาต์กโรค หรือคนที่มีโรคติดต่อทางเดินอาหารก็สามารถติดต่อผ่านอุจจาระได้ ดังนั้น แนะนำประชาชนที่ได้กินสิ่งปฏิกูลทางร่างกายเข้าไปให้ไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจสุขภาพ
ขณะที่ นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองอธิบดีกรมอนามัย ระบุว่า สิ่งปฎิกูลในร่างกายไม่ว่าจะถูกขับออกมาทางไหนของร่างกายล้วนมีเชื้อโรคทั้งสิ้น แต่ปัสสาวะ ตามหลัก ถ้าเป็นปัสสาวะของคนที่ไม่ได้เป็นโรคอะไร ปัสสาวะนั้นไม่มีเชื้อโรค แต่ตามหลักจะไม่แนะนำให้มีการดื่มปัสสาวะอยู่แล้ว เพราะปัสสาวะเป็นสิ่งที่ร่างกายขับสารของเสียที่เกินความจำเป็นของร่างกายออกมา
แต่หากเป็นปัสสาวะที่อยู่ในร่างกายของคนที่มีโรคประจำตัว ก็อาจจะมีเชื้อโรคอยู่ในปัสสาวะ เช่น โรคทางเพศสัมพันธ์ หนองใน ในปัสสาวะก็อาจจะมีหนองออกมาด้วย ถ้าหากปัสสาวะทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องก็จะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตในปัสสาวะ แต่ในส่วนของแพทย์แผนไทยก็ไม่ได้มีแนวทางการรักษาโรค ด้วยการดื่มปัสสาวะตัวเอง
ส่วนการกินสิ่งปฏิกูลอื่นๆ นพ.เอกชัย ระบุว่า ในสิ่งเหล่านี้มีเชื้อโรคจำนวนมากปนอยู่แล้วไม่ควรนำมากิน การที่ลำไส้ใหญ่ได้รับเชื้อโรคจากสิ่งปฏิกูลเหล่านี้ ย่อมส่งผลต่อร่างกายในการอาการโรคต่างๆ เช่น ท้องเสีย โรคติดต่อทางเดินอาหาร
ขณะเดียวกัน บนผิวหนังร่างกายของคนเรามีเชื้อโรคอยู่แล้ว เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา กลากเกลื้อน และยิ่งมีการบริโภคทางร่างกาย เท่ากับรับเชื้อโรคเหล่านี้เข้าไป ยิ่งไปกว่านั้นหากในช่องปากของเราเกิดมีแผล อาจจะทำให้เกิดอันตรายเพิ่มขึ้นไปอีก
ภาพประกอบ AFP