โยชิฮิเดะ สุงะ 'ลุงเรวะ' นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่
คอลัมน์ People In Focus: โยชิฮิเดะ สุงะ ‘ลุงเรวะ’ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่
จากลูกชายเจ้าของไร่สตรอเบอร์รี่ ในจังหวัดอาคิตะ ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ สุงะ นักการเมืองประสบการณ์สูงวัย 71 ปี เวลานี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว
สุงะ เกิดและโตในจังหวัดอาคิตะ ต่อสู้ดิ้นรนทำงานพิเศษจนจบมหาวิทยาลัยในกรุงโตเกียว ก่อนก้าวเข้าสู่เวทีการเมืองเป็นครั้งแรกด้วยการได้รับเลือกเป็นตัวแทนสภาเทศบาลเมืองโยโกฮามา ชานกรุงโตเกียว ในปีพ.ศ.2530
เส้นทางการเมืองของสุงะ เป็นเส้นทางที่แตกต่างจากนักการเมืองในพรรคเสรีประชาธิปไตย(แอลดีพี) ที่ส่วนใหญ่มีเชื้อสายสืบทอดมาจากครอบครัวที่เล่นการเมืองมาก่อน
สุงะ ได้รับเลือกสู่สภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ.2539 เป็นผู้ให้การสนับสนุนนายชินโสะ อาเบะ มาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อาเบะ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก รวมไปถึงผลักดันให้นายอาเบะ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่นอีกครั้งเป็นสมัยที่ 2 ในปี 2555
สุงะ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าเลขานุการคณะรัฐมนตรี ตำแหน่งทรงอิทธิพลมากที่สุดในรัฐบาลญี่ปุ่น ทำหน้าที่ในการประสานงานนโยบายและขับเคลื่อนหน่วยงานของรัฐให้เดินหน้าไปตามนโยบายของรัฐบาล
สุงะ ทำหน้าที่ทั้งให้คำปรึกษา ผลักดันนโยบายต่างๆ เช่นนโยบายด้านเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชนบท รวมถึงการผ่อนคลายความเข้มงวดเรื่องการจ้างงานแรงงานต่างชาติ เป็นต้น
นอกจากนี้ สุงะ ยังทำหน้าที่โฆษกรัฐบาล แถลงข่าวตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวทุกๆ วันจนชาวญี่ปุ่นคุ้นหน้าคุ้นตา และยิ่งเป็นที่พูดถึงมากขึ้นอีกเมื่อ สุงะ ทำหน้าที่ประกาศชื่อรัชสมัย “เรวะ” รัชสมัยใหม่ของประเทศญี่ปุ่น หลังการขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น จนได้ฉายาจากประชาชนอีกชื่อหนึ่งว่า “ลุงเรวะ”
สุงะ ถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืนเป็นกลางในพรรคแอลดีพี มีชื่อเรื่องการคาดเดาความคิดได้ยาก มักไม่แสดงออกถึงแนวคิดทางการเมืองโดยส่วนตัวบ่อยนัก โดยก่อนหน้านี้บอกอยู่เสมอว่าตนไม่มีความต้องการที่จะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นอยู่เลย
อย่างไรก็ตามหลังจากชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ นายสุงะ จึงได้รับการคาดหมายให้เป็นตัวเต็งที่จะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และก็เป็นไปตามคาดเมื่อได้รับเสียงสนับสนุนให้นั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพี และได้รับการลงมติจากรัฐสภาให้นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในที่สุด
สุงะ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นคนทำงานที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จากนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่เข้าสู่ภาวะถดถอยอยู่แล้ว รวมถึงการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ก่อนหน้าที่ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพในการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2563 ที่กรุงโตเกียว ซึ่งเลื่อนไปจัดในปี 2564 แล้ว
ขณะที่นโยบายด้านต่างประเทศคาดว่าจะเดินหน้าสานสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาต่อไป ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้ก็ตาม