รีเซต

เสียงที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ ดังแค่ไหน เกิดขึ้นจากอะไร ?

เสียงที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์ ดังแค่ไหน เกิดขึ้นจากอะไร ?
TNN ช่อง16
21 สิงหาคม 2567 ( 12:22 )
25

เมื่อเวลา 10.02 น. วันที่ 27 สิงหาคม 1883 หรือก็คือ 141 ปีที่แล้ว เกิดภูเขาไฟระเบิด บนเกาะกรากะตัว (Krakatoa) ประเทศอินโดนีเซีย การระเบิดทำให้ประมาณร้อยละ 67 ของเกาะพังทลายลง ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 46 เมตรที่ส่งไปไกลถึงภูมิภาคแอฟริกาใต้ และมันได้ส่งเสียงที่ดังที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่มนุษย์เคยบันทึกไว้


เกาะกรากะตัว ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดชวาและจังหวัดสุมาตราในอินโดนีเซีย โดยเป็นเกาะภูเขาไฟขนาดเล็กที่ไม่มีประชากรอาศัยอยู่ ยอดภูเขาไฟสูง 838 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และนักวิทยาศาสตร์รายงานว่าการระเบิดครั้งก่อนหน้าเกิดขึ้นในปี 1680 ก่อนที่จะเกิดระเบิดอีกครั้งในปี 1883 ซึ่งเป็นครั้งที่มีการบันทึกว่าเป็นเหตุการณ์ที่ส่งเสียงดังที่สุดในประวัติศาสตร์


พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติรายงานว่า การระเบิดในเดือนสิงหาคม 1883 ทำให้เกิดแรงเทียบเท่ากับระเบิด 200 เมกะตัน และส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 36,000 คน จากการเกิดคลื่นสึนามิซัดสาดชายฝั่งทะเลบนเกาะชวาและเกาะสุมาตรา ทำให้กลายเป็นเหตุการณ์ภูเขาไฟปะทุที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ โดยอันดับ 1 คือการระเบิดของภูเขาไฟทัมโบรา ประเทศอินโดนีเซียเช่นกัน โดยมีผู้เสียชีวิตประมาณ 60,000 คน


จากการอ่านค่าบารอมิเตอร์ที่โรงผลิตก๊าซที่อยู่ห่างจากจุดระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัวเมื่อปี 1883 ประมาณ 160 กิโลเมตร บ่งชี้ว่าการปะทุดังกล่าวทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องถึง 172 เดซิเบล ซึ่งเกณฑ์ของเสียงที่ทำให้มนุษย์เกิดความเจ็บปวดคือ 130 เดซิเบล ที่สำคัญคือการรับรู้เสียงของหูมนุษย์ ไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นแบบเชิงเส้น แต่เป็นการเพิ่มแบบเอ็กซ์โพเนนเชียล หมายถึง หูของมนุษย์จะรับรู้การเพิ่มขึ้นของทุก ๆ 10 เดซิเบล ว่าเป็นความดังที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ตัวอย่างเช่น เสียงที่ 140 เดซิเบล จะถูกมองว่าดังเป็น 2 เท่าของเสียงที่ 130 เดซิเบล ดังนั้น 172 เดซิเบลจึงเป็นเสียงที่ดังมากสำหรับมนุษย์ 


อย่างไรก็ตาม แม้บารอมิเตอร์ที่อยู่ห่างจากจุดปะทุ 160 กิโลเมตรจะอ่านค่าความดังได้ 172 เดซิเบล แต่นักวิทยาศาสตร์เผยว่า เสียงการระเบิดดังถึง 194 เดซิเบล ซึ่งเป็นเสียงดังสุดที่เป็นไปได้ในอากาศ เนื่องจากเป็นระดับเสียงที่ทำให้อากาศถึงขีดจำกัดของการบีบอัดและการขยายตัวที่เป็นไปได้


คลื่นกระแทกของเสียงนี้ส่งผ่านไปทั่วโลก โดยมีการรายงานผู้ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 4,800 กิโลเมตร สามารถได้ยินเสียงระเบิดนี้ได้ แต่นักวิทยาศาสตร์รายงานว่าคลื่นเสียงนี้จะเดินทางรอบโลกประมาณ 3 รอบ ก่อนจะค่อย ๆ สูญเสียพลังงานลง ทั้งนี้นิตยสาร ดิสโคฟเวอ (Discover) ได้รายงานว่าเรือสัญชาติอังกฤษ นอร์แฮม คาสเทิล (Norham Castle) ซึ่งขณะนั้นอยู่ห่างออกไปประมาณ 64 กิโลเมตร ได้สัมผัสกับเสียงนี้ และกัปตันเรือได้เขียนลงในบันทึกของกัปตันว่า "แรงระเบิดรุนแรงมากจนแก้วหูของลูกเรือกว่าครึ่งพังทลาย ความคิดสุดท้ายของผมหวนไปถึงภรรยาที่รัก ตอนนั้นผมมั่นใจว่าวันพิพากษามาถึงเสียแล้ว"


ที่มาข้อมูล IFLScience

ที่มารูปภาพ Wikipedia 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง