รีเซต

อเมริกาวางแผนสร้างเรือรบ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

อเมริกาวางแผนสร้างเรือรบ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
TNN ช่อง16
31 มกราคม 2565 ( 21:53 )
217
อเมริกาวางแผนสร้างเรือรบ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ

สำนักข่าว SCMP รายงานว่า แผนของกองทัพเรือสหรัฐฯ มีขึ้นเพื่อตอบโต้อำนาจที่เพิ่มขึ้นของกองทัพของจีน โดยเฉพาะน่านน้ำที่มีการโต้แย้งในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก 


---กองทัพอเมริกันเสริมทัพครั้งใหญ่---


รายงานของ US Congressional Research Service ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา คาดการณ์ว่า สหรัฐฯ จะเริ่มสร้างเรือรบ DDG(X) รุ่นใหม่ในปี 2028 เพื่อทดแทนเรือรบลำเก่า 


USNI News ซึ่งเป็นบริการข่าวออนไลน์ของ US Naval Institute ระบุว่า การสร้างครั้งนี้จะเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุด ที่กองทัพเรือสหรัฐฯ พยายามสร้างในรอบกว่า 20 ปี


รายงานยังเผยว่า เรือรบลำนี้จะได้รับการออกแบบเพื่อ “ขับเคลื่อนอาวุธพลังงานควบคุมทิศทางรุ่นใหม่ และเซ็นเซอร์กำลังสูง ที่จะติดตามกองเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Arleigh Burke ของกองทัพเรือในปัจจุบัน


“DDG(X) จะใช้ระบบการต่อสู้ที่พัฒนาจาก Flight III Arleigh Burkes ประกอบด้วยเรดาร์ค้นหาทางอากาศ SPY-6 รุ่นใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้บัญชาการเรือสามารถค้นหาตำแหน่ง และแยกแยะภัยคุกคามที่กำลังใกล้เข้ามาได้พร้อมกันในครั้งเดียว” USNI News ระบุ


---ปฏิกิริยาตอบโต้แดนมังกร---


การประกาศดังกล่าว มีขึ้นในขณะที่ทั้งสองประเทศแย่งชิงอำนาจเหนือทะเลจีนใต้ และความตึงเครียดระหว่างสองประเทศในไต้หวันที่เพิ่มสูงขึ้น


มัลคอล์ม เดวิส นักวิเคราะห์อาวุโสที่เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงของจีน จากสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่า โครงการ DDG(X) เป็นการตอบสนองอย่างชัดเจน ต่อกองทัพเรือของแดนมังกรที่มีอำนาจมากขึ้นเรื่อย 


มันเป็นการตอบสนองต่อจำนวนเครื่องบินรบของกองทัพเรือ PLA ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะเรือลาดตระเวนชั้น Type 055 Renhai และเรือพิฆาตชั้น Type 052D Luyang III” เดวิด กล่าว


ยิ่งไปกว่านั้น ยังตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ป้องกันของจีน ที่ต่อต้านการเข้าถึงและปฏิเสธพื้นที่ (Anti-Access, Area Denial - A2AD) รวมถึงความสามารถด้านการต่อสู้ระยะไกลขั้นสูง ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันเรือรบของสหรัฐฯ


---สร้างข้อได้เปรียบเหนือจีน---


เดวิส กล่าวว่า มีความกังวลว่า A2AD จะทำให้เกิดอันตรายต่อสหรัฐฯ รวมถึงกองทัพเรือและพันธมิตรสหรัฐฯ อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น “ในการเจาะลึกเข้าไปในแนวโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก และอาจทำให้การดำเนินการภายในแนวโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นที่สอง อันตรายมากขึ้น


แนวโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นแรก (First Island Chain) คือ กลุ่มเกาะที่ทอดยาวจากภาคเหนือของญี่ปุ่น ไปยังไต้หวันและลงสู่ฟิลิปปินส์ ส่วนแนวโซ่แห่งดินแดนวงล้อมชั้นที่สอง (Second Island Chain) เป็นกลุ่มยุทธศาสตร์ของเกาะที่อยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งรวมถึงฐานทัพทหารสหรัฐฯ ในเกาะกวม


การตอบโต้ดังกล่าว จะทำให้เรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐฯ เข้าใกล้ได้ยากขึ้น เป็นอุปสรรคต่อภารกิจการแผ่กำลังอำนาจทางทะเลแบบดั้งเดิมของสหรัฐฯ


---DDG(X) คล่องตัว-แทรกซึมได้ดีกว่าเดิม---


หนานชาง” เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี Type 055 ของจีน ได้เข้าประจำการเมื่อสองปีที่แล้ว ส่วนลำที่ 2 ได้รับรายงานว่า พร้อมเข้าสู่น่านน้ำในวันที่ 11 มกราคม ขณะที่เรือ Type 055 ลำที่ 3 และ 4 ส่งมอบเมื่อปีที่แล้ว และยังมีอีกหนึ่งลำที่คาดว่าจะเข้าประจำการในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ 


ขณะที่ เรือ Type 052D ของจีน ได้รับการออกแบบให้ตรงกับเรือพิฆาตชั้น Arleigh-Burke ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเรือลำแรกของชั้นนี้ที่เปิดตัวในปี 2014 ส่วนจีนเปิดตัว Type 052D ลำที่ 25 ไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 


ไมเคิล ฟาเบย์ นักข่าวกองทัพเรือสหรัฐฯ ของ Jane's และบรรณาธิการของ Jane's Fighting Ships กล่าวว่า DDG(X) มีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากดำเนินการได้อย่างอิสระ


เรือบรรทุกเครื่องบินจะไม่เคลื่อนที่โดยไร้กองเรือและเรือพิฆาต เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัย แต่ DDG(X) สามารถแล่นได้โดยลำพัง ไม่เหมือนกับเรือบรรทุกเครื่องบิน จึงเข้าถึงพื้นที่ได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะพื้นที่พิพาทหรือน่านน้ำของหุ้นส่วนและพันธมิตรสหรัฐฯ ที่เรือบรรทุกเครื่องบินเข้าไม่ถึง” ฟาเบย์ กล่าว


---ควรได้ให้เท่ากับที่เสีย---


เดวิสกล่าวว่า ข้อได้เปรียบที่สำคัญอีกประการของ DDG(X) คือ ความสามารถในการปรับปรุงความสามารถของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่อันตราย เมื่อต้องเผชิญกับ A2AD ของจีน ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว


เขายังเสริมด้วยว่า จะเป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับสหรัฐฯ หากผลักดันการผลิตเรือรุ่นใหม่  ต่อไป “ความกังวลอย่างหนึ่ง คือ เรือลำนี้จะไม่เริ่มสร้างจนกว่าจะถึงช่วงปลายทศวรรษที่ 2020” 


ผมคิดว่า ถ้ากองทัพเรือสหรัฐฯ สร้างเรือรบได้เร็วกว่านี้และเคลื่อนตัวมากขึ้น เพื่อบูรณาการความสามารถขั้นสูงให้เร็วกว่าเดิม นั่นจะสมเหตุสมผลมากขึ้นเมื่อพิจารณาถึงความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็วของสภาพแวดล้อมเชิงกลยุทธ์” เดวิส กล่าว

—————

แปล-เรียบเรียงพัชรี จันทร์แรม

ภาพ: US Navy

ข่าวที่เกี่ยวข้อง