รีเซต

'ชลน่าน' ชี้ 30 เสียงพรรคเล็กเป็นตัวแปรสำคัญ เชื่อ ‘ฝ่ายค้าน’ดึงมาร่วมล้มรัฐบาลในเวทีซักฟอกได้

'ชลน่าน' ชี้ 30 เสียงพรรคเล็กเป็นตัวแปรสำคัญ เชื่อ ‘ฝ่ายค้าน’ดึงมาร่วมล้มรัฐบาลในเวทีซักฟอกได้
มติชน
13 มีนาคม 2565 ( 14:04 )
109
'ชลน่าน' ชี้ 30 เสียงพรรคเล็กเป็นตัวแปรสำคัญ เชื่อ ‘ฝ่ายค้าน’ดึงมาร่วมล้มรัฐบาลในเวทีซักฟอกได้

ข่าววันนี้ 13 มีนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นัดพรรคการเมืองซีกรัฐบาลรับประทานอาหาร สะท้อนอะไรบ้าง ว่า ในมิติทางการเมือง นักการเมืองต้องมีกิจกรรมที่แสดงถึงความพร้อมในแต่ละสถานการณ์ เพื่อประกาศว่ามีความเหนียวแน่นและแน่นแฟ้น แต่สิ่งที่ขาดไปคือกลุ่มพรรคเล็กว่าทำไมถึงไม่ได้เข้าร่วม ดังนั้น จึงต้องแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองว่าเขาก็พร้อม สามารถนัดหมายมาพูดคุยเรื่องงานและทิศทางของเขา ซึ่งการที่พรรคเล็กนัดรับประทานอาหาร มันทรงพลังกว่าพรรคใหญ่นัดอีก เพราะขณะนี้ 30 เสียงคือตัวแปรที่จะไปตรงไหนก็ได้ ฉะนั้น ถ้าใครสามารถจัดการ 30 เสียงนั้นได้ก็จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้

 

เมื่อถามว่า 30 เสียงนี้ ฝ่ายค้านจะสามารถดึงมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นแก่ประเทศชาติและประชาชนก็มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะพรรคแกนหลักก็บอกว่าทุกอย่างจะตัดสินบนพื้นฐานความต้องการของประชาชน ถ้าประชาชนส่งเสียงเรียกร้องออกมาในภาวะวิกฤตว่า นายกฯ ต้องออกไป ก็เป็นอาณัติที่บอกกับพรรคการเมืองนั้นๆ ว่า ไหนคุณบอกว่าจะทำเพื่อประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่ต้องไปทำอะไร เราพร้อมที่จะรับเข้ามาร่วมกันทำหน้าที่เพื่อประชาชน

 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุว่ามีเพียงเสียงเดียวของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล นพ.ชลน่านกล่าวว่า เป็นความเห็นของท่าน แต่ข้อเท็จจริงเท่านั้นที่เราจะต้องดู ครั้งนี้หลายพรรคไม่ได้มองประโยชน์ทางการเมือง แต่เขามองประโยชน์ภาพรวมของประเทศ แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็มองไปที่พรรคตัวเองแล้วว่า จะตอบสนองกับพี่น้องประชาชน ให้ประชาชนยอมรับได้อย่างไร หากยังไปสนับสนุนรัฐบาลที่ประชาชนไม่เอา ก็จะส่งผลต่อพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ดังนั้นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอย่างไร

 

เมื่อถามว่า ในฝ่ายพรรค พท. หากเกิดงูเห่าในสมัยหน้าอีกจะจัดการอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า มีกลไกของทางพรรคทั้งทางจริยธรรมและวินัยอยู่แล้ว จะพิจารณาเป็นขั้นเป็นตอน จะดำเนินการไปตามนั้น ส่วนมาตรการจะเข้มข้นขนาดไหน อยู่ที่พฤติการณ์เป็นหลัก ถ้าหนักก็ขับออก ไม่หนักก็มีพฤติการณ์ลดหลั่นกันมา

 

เมื่อถามถึง ความพร้อมของพรรค พท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า เราเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุด เลือกตั้งเมื่อไหร่เราก็พร้อมลงทุกเขต ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พท.จะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าเห็นอย่างไร ถ้าประชาชนมีเสียงตอบรับที่ดี มีเสียงสนับสนุนก็มีความเป็นไปได้ทั้งหมด อยู่ที่พี่น้องประชาชน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง