สหราชอาณาจักรรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ พุ่งขึ้นมากกว่า 50,000 รายในวันเดียว

รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ อยู่ที่ 51,870 ราย สูงที่สุดตั้งแต่กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

 

ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน และเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ Delta ที่แพร่เชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์เดิม และการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์บางส่วน

 

 

แม้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรยังมีแผนที่จะยกเลิกมาตรการคุมเข้มเกี่ยวกับการติดต่อทางสังคมที่เหลืออยู่ทั้งหมดในวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคมนี้ และยกเลิกคำแนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคม และการบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยภายในสถานที่ปิดส่วนใหญ่ รวมทั้งร้านค้า, รถไฟ, รถบัสและรถไฟใต้ดิน

 

 

รัฐบาลกำลังหวังว่า การกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็ว จะช่วยหยุดยั้งจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รุนแรง ซึ่งเป็นท่าทีที่บรรดานักวิทยาศาสตร์ชั้นนำหลายคนในที่ประชุมนานาชาติฉุกเฉินวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการ “ประมาท”

กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ดังกล่าว ซึ่งรวมทั้งบรรดาที่ปรึกษาของรัฐบาลอิตาลี, นิวซีแลนด์และไต้หวัน กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขาได้ร่วมกันเป็นพลังส่งผ่าน “ความรู้สึกเร่งด่วน” เพื่อเตือนผลลัพธ์เลวร้ายทั่วโลก หากปล่อยให้ไวรัสสายพันธุ์ Delta ระบาดอย่างรวดเร็วผ่านประชาชนชาวอังกฤษ

 

 

นายแพทย์วิลเลียม เอ.แฮเซลไทน์ หนึ่งในผู้ลงนามร่วมในการแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ (16 กรกฎาคม) จากสถาบันคลังสมอง “Access Health International” ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ยุทธศาสตร์ดังกล่าว “อันตรายมาก” และ “ไร้เหตุผล”

 

 

ส่วนครอบครัว ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร เข้าร่วมวิพากษ์วิจารณ์แผนการดังกล่าวของรัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ด้วย

 

 

ในส่วนอื่น ๆ ของสหราชอาณาจักร ทั้งสกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ก็เตรียมออกจากมาตรการล็อกดาวน์อย่างระมัดระวังมากขึ้นด้วย จนถึงขณะนี้ จำนวนผู้ป่วยจากโควิด-19 ในโรงพยาบาลสหราชอาณาจักร และผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงระบาดสูงสุดรอบสองเมื่อต้นปีนี้

 

 

แต่ด้วยความที่รัฐบาลได้แจ้งเตือนแล้วว่า ผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งสูงกว่า 100,000 รายในช่วงฤดูร้อนนี้ จึงสร้างความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

 

 

จอห์นสัน กำลังเรียกร้องให้ประชาชนยังคงระวังในการพบปะกับคนอื่น ๆ และสวมหน้ากากอนามัยด้วยเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีฝูงชนจำนวนมาก

 

 

ส่วนคริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่แพทย์ของรัฐบาลอังกฤษกล่าวในการสัมมนาผ่านเว็บไซต์ ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในกรุงลอนดอน เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี (15 กรกฎาคม) ว่า สหราชอาณาจักร “ยังไม่ได้ออกจากป่า”

 

 

เขากล่าวว่า ไม่คิดว่าอังกฤษจะประเมินสถานการณ์ต่ำไป กับความจริงที่ว่า เราอาจกลับเข้าสู่ความยากลำบากรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจอีกครั้ง

 

 

ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่การเข้าโรงพยาบาลมากขึ้นแม้ว่า การฉีดวัคซีนได้ช่วยสร้างกำแพงภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุดแล้วก็ตาม

 

 

ทั้งนี้ มากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ใหญ่ชาวอังกฤษที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และเกือบ 88% ฉีดแล้ว 1 เข็ม

ข้อมูลของรัฐบาลอังกฤษพบว่า มีผู้ติดโควิดเข้าโรงพยาบาลถึง 3,964 ราย มากที่สุดตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวเลขจะเพิ่มสูงต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์มานี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าในเดือนมกราคมมาก ซึ่งช่วงนั้นโรงพยาบาลในอังกฤษต้องรับผู้ป่วยโควิดประมาณ 40,000 ราย

 

 

นอกจากมีผู้เข้าโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นแล้ว ผู้เสียชีวิตรายวันก็เพิ่มสูงสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยมีผู้เสียชีวิต 49 รายในวันศุกร์ (16 กรกฎาคม) รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วสหราชอาณาจักร อยู่ที่ 128,642 ราย สูงสุดเป็นอันดับ 7 ของโลก

 

 

วิตตีเตือนว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดเข้าโรงพยาบาลจะเพิ่มเป็นสองเท่าประมาณทุก 3 สัปดาห์ และอาจพุ่งถึงระดับที่ค่อนข้างจะน่ากลัว หากแนวโน้มสถานการณ์ปัจจุบัน ยังเป็นแบบนี้ต่อไป