ม็อบฮือทั่วยุโรปต้านวัคซีนพาสปอร์ต ชี้ละเมิดสิทธิคนไม่ฉีดวัคซีนโควิด

เมื่อวันที่ 23 ม.ค. เอพีรายงานว่า เกิดผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายวัคซีนพาสปอร์ต หรือ เอกสารหลักฐานการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือ โควิด-19 เพื่อเข้าถึงบริการต่างๆ ในสังคม ในหลายเมืองใหญ่ทั่วทวีปยุโรป โดยผู้ประท้วงมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้ไม่ต้องการรับวัคซีน

การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นที่กรุงเอเธน ประเทศกรีซ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน แต่ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

ผู้ชุมนุมที่เดินทางมานั้นไม่เห็นด้วยกับมาตรการสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ที่กรุงปารีส ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนจะไม่สามารถใช้บริการสายการบินในประเทศ เข้าร่วมชมมหกรรมกีฬา สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ได้ เป็นต้น

เช่นเดียวกันกับที่กรุงสตอกโฮล์ม ผู้เข้าร่วมสถานที่ที่มีผู้คนมากกว่า 50 คนขึ้นไป ต้องมีเอกสารการรับวัคซีนแล้ว โดยกลุ่มผู้ประท้วงนั้นมีกลุ่มนีโอ-นาซีร่วมด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตามองอย่างใกล้ชิด

วันเดียวกัน "นางจาซิดา อาร์เดิร์น" นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ประกาศยกเลิกพิธีวิวาห์ของตนกับนายคลาร์ก เกย์ฟอร์ด พิธีกรข่าวคู่หมั้น หลังมีคำสั่งยกระดับมาตรการสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์โอมิครอน

การยกระดับจะห้ามไม่ให้มีการชุมนุมเกิน 100 คน สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว รวมถึงบังคับสวมหน้ากากอนามัยในอาคารและระบบขนส่งมวลชน แม้ประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไปของนิวซีแลนด์จะได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้วถึงร้อยละ 94 ก็ตาม