มัดรวมมาให้แล้ว ทริคประหยัด "พลังงาน" ช่วง "สเตย์โฮม" ไฟฟ้า-น้ำ-เน็ต

โควิด-19 ทําเอาหลายคนตาค้างไปตามๆ กัน หลังเห็นบิลค่าไฟ ค่าน้ำ ที่กอดคอกันขึ้น กระทั่งค่าอินเตอร์เน็ตมือถือที่มีส่วนเกิน ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่แต่ละออฟฟิศและองค์กร มีมาตรการให้พนักงานเจ้าหน้าที่ “เวิร์ก ฟรอม โฮม” มิหนำซ้ำ ยังอยู่ในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเป็นช่วงพีคของปีที่คนไทยใช้พลังงานสูงสุด

เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤตนี้ มาเรียนรู้เคล็ดลับประหยัดพลังงาน “ไฟฟ้า น้ำประปา และอินเตอร์เน็ตมือถือ” ที่ช่วงนี้ต้องใช้หนักมาก เพื่อผ่อนหนักเป็นเบากันเถิด

ประหยัดไฟฟ้า

นายรุ่งเรือง สายพวรรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล่าว่า ภาพรวมการใช้พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ มีสัดส่วนการใช้ในครัวเรือน ร้อยละ 20 นอกนั้นอยู่ในภาคอุตสาหกรรมโรงงานและออฟฟิต แต่ช่วงนี้คนส่วนใหญ่เวิร์กฟรอมโฮม ส่วนนักเรียนนักศึกษาก็เรียนออนไลน์ จึงคาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนสูงกว่าปกติ

ด้วยทำงานและคลุกคลีในแวดวงพลังงานมายาวนาน จากความรู้สู่การทดลองปฏิบัติภายในบ้านตัวเอง ซึ่งได้ผลดี ผอ.รุ่งเรืองจึงอยากแชร์เคล็ดลับประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้า 4 วิธี ดังนี้

1.อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เลือกใช้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ อย่างการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือหากกำลังซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ให้เลือกที่มี ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แบบใหม่ ที่มีดาว โดยเฉพาะที่มี 3 ดาว ถือว่าประหยัดไฟสูงสุด

แอร์กินไฟสุด

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี ก็สามารถประหยัดพลังงานได้ นายรุ่งเรือง แนะนำว่า เริ่มจากเครื่องปรับอากาศ หรือแอร์ ที่กินไฟเยอะมากช่วงนี้ บางหลังสูงถึง ร้อยละ 70 ของค่าไฟฟ้าประจำเดือนเลย เนื่องจากหลายคนเปิดแอร์ตลอดเวิร์กฟรอมโฮม สามารถประหยัดพลังงานได้ เริ่มจากการล้างทำความสะอาดสม่ำเสมอ แนะนำการล้างใหญ่ 2 ครั้งต่อ 1 ปี บางคนสามารถทำได้เอง แต่ส่วนใหญ่จะเรียกช่างมาล้าง ซึ่งขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังทำโปรโมชั่นล้างแอร์ในราคา 300 บาท (ติดต่อ กฟผ.ล้างแอร์ได้ทางแอพพลิเคชั่น MEA Smart Life ทางเดียว)

และการล้างย่อยทุกเดือน โดยถอดแผ่นฟิลเตอร์มาล้างทำความสะอาด ส่วนใหญ่สามารถทำได้เอง เพราะถอดได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ก็จะช่วยประหยัดไฟและลดฝุ่นละอองภายในห้องได้ นอกนั้นก็พยายามอุดรอยรั่วของอากาศตามขอบประตูและหน้าต่าง โดยเฉพาะขอบประตู ที่บริเวณด้านล่างจะมีการยกสูงจากพื้นประมาณ 1 เซนติเมตร ให้หาวัสดุ เช่น ผ้า ที่เดี๋ยวนี้มีสอดระหว่างกลางมาปิดไว้ หรือไปหาแผ่นติดบานล่างประตู ตามร้านขายวัสดุทั่วไป สามารถช่วยและมีประโยชน์จริงๆ

“จริงๆ ถ้ามีโอกาสซื้อแอร์ใหม่ แนะนำให้ซื้อแอร์ที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ ซึ่งใช้พลังงานน้อยกว่าแอร์ทั่วไปถึงร้อยละ 30 เดี๋ยวนี้ราคาลดลงแล้ว แพงกว่าแอร์ทั่วไปไม่มาก เพียง 1 ปี ก็คืนทุนแล้ว โดยแนะนำให้เปิดไว้ที่อุณหภูมิ 26 องศาเซลเซียส ไม่จำเป็นต้อง 25 องศาเซลเซียส เหมือนการรณรงค์เมื่อก่อน เพราะเดี๋ยวนี้แอร์มีประสิทธิภาพมากกว่าในอดีต เปิดที่ 26 องศา จึงเป็นความเย็นที่กำลังพอดี หากรู้สึกร้อนก็เร่งพัดลมช่วยได้ ที่สำคัญในห้องแอร์ไม่ควรมีเครื่องที่ปล่อยความร้อน เช่น ตู้เย็น เตารีด เพราะจะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น” นายรุ่งเรืองกล่าว

หลอดประหยัดไฟ

รองลงมาที่ใช้มากช่วงเวิร์กฟรอมโฮม คือ หลอดไฟ ที่ต้องเปิดตลอดการทำงานช่วงเวิร์กฟรอมโฮม 6-8 ชั่วโมงต่อวัน นายรุ่งเรืองแนะนำ ให้ใช้หลอดแอลอีดี ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือหากเปลี่ยนไม่เป็น ให้หาโคมไฟที่ใช้หลอดไฟแอลอีดี มาเปิดใช้แทนก็ได้อีกเช่นกัน

ตู้เย็น

ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินพลังงานแบบเงียบๆ ตลอด 24 ชั่วโมง ช่วงซัมเมอร์และเวิร์กฟอรมโฮม คือ ตู้เย็น นายรุ่งเรือง แนะนำว่า พื้นฐานของตู้เย็นคือ ภายในให้ความเย็น และระบายความร้อนทางภายนอก โดยเฉพาะด้านหลัง ฉะนั้นตู้เย็นจึงต้องไม่ตั้งชิดกำแพงจนเกินไป เพราะนอกจากจะกินไฟมาก ยังทำให้เสื่อมประสิทธิภาพเร็ว แต่ให้ตั้งเว้นระยะห่างจากกำแพง 15 เซนติเมตร

ส่วนภายในตู้เย็น ให้ทำการสำรวจว่ามีสิ่งของแน่นไปรึเปล่า โดยเฉพาะสิ่งของที่ใส่จนลืมตั้งแต่เดือนก่อน สิ่งของหมดอายุ ก็ให้เอาออกและจัดใหม่ ไม่ให้แน่นจนเกินไป อย่างไรก็ตาม ตู้เย็นจะมีตัวปรับระดับอุณหภูมิ ได้แก่ ต่ำ กลาง และสูง ก็ให้ปรับมาที่ระดับกลาง ตลอดจนหากช่องฟรีซมีน้ำแข็งเกาะมาก ให้ทำการละลายออก ก็จะเพิ่มประสิทธิภาพได้

“สิ่งสำคัญของตู้เย็นในช่วงเวิร์กฟรอมโฮม คือการที่เราเปิดปิดบ่อยๆ ทำให้ตู้เย็นทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น ฉะนั้นต้องใช้เท่าที่จำเป็น เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น”

นายรุ่งเรือง แนะนำถึงการใช้อุปกรณ์ทำงานให้ประหยัดพลังงาน ช่วงเวิร์กฟอร์มโฮมอีกว่า ในกรณีที่มีทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟนแท็บเล็ตพร้อมกัน ก็ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม เช็กอีเมล์หากใช้สมาร์ทโฟนแท็บเล็ต กินไฟเพียง 2-4 สตางค์ต่อชั่วโมง หรือหากพิมพ์งานส่งจดหมายใช้โน้ตบุ๊ก กินไฟเพียง 40 สตางค์ต่อชั่วโมง และหากต้องทำงานใช้ระบบประมวลผลสูงใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ กินไฟ 2 บาทต่อชั่วโมง ขณะที่บางคนใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ให้ใช้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ ช่วงไม่ใช้ก็ปิดพักเพื่อประหยัดไฟได้

2.จัดสถานที่ ห้องทำงาน และโต๊ะทำงาน นอกจากเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าตามคำแนะนำข้างต้น ช่วงไม่ใช้ช่วงพักก็ปิด รวมถึงการตั้งโต๊ะทำงานบริเวณหน้าต่าง เพื่อใช้แสงสว่างและลมธรรมชาติเข้ามา สามารถลดการใช้พลังงานได้

3.วางแผนและจัดลำดับการทำงาน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับสไตล์และความสามารถของแต่ละคน ซึ่งการจัดลำดับการทำงานที่ดี นอกจากจะช่วยให้งานเสร็จเร็ว ยังถือเป็นการประหยัดพลังงานวิธีหนึ่ง

4.พฤติกรรม ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเสร็จให้ถอดปลั๊กออก แม้ปลั๊กจะเสียบกับตัวรับโดยตรง หรือเสียบผ่านปลั๊กพ่วงที่มีสวิตช์เปิดปิดอีกทีหนึ่ง ก็ยังกินไฟอยู่ดี รวมถึงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละครั้งต้องใช้ให้คุ้ม อย่างเครื่องซักผ้า เตารีด อย่ามารีด ซักเสื้อผ้า เพียงไม่กี่ตัวต่อรอบ และทำทุกวัน เพราะถือเป็นพฤติกรรมที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมาก อย่างไรก็ตาม เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมเพื่อช่วยประหยัดพลังงานออกมาตลอด และมีขายทั่วไป อย่างเดี๋ยวนี้หลอดไฟก็เพิ่มระบบเซ็นเซอร์เปิดปิดเอง ตามระดับแสงอาทิตย์ สามารถใช้ได้กับขั้วหลอดไฟเดิมได้เลย

“หากปฏิบัติได้ทุกมาตรการ คุณจะประหยัดพลังงานไปได้ถึงร้อยละ 30 การประหยัดพลังงานนอกจากได้กับตัวเรา ยังได้กับประเทศ ที่ทุกวันนี้ยังนำเข้าพลังงานไฟฟ้า น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติอยู่ และเมื่อโรงไฟฟ้าลดกำลังการผลิต เพราะการใช้งานลดลง ก็ปล่อยมลพิษน้อยลงเช่นกัน โดยเฉพาะก๊าซที่ทำให้โลกร้อน ถือเป็นการช่วยโลกอีกทางหนึ่ง จึงเป็นเรื่องดีต่อทุกคน” นายรุ่งเรืองกล่าวทิ้งท้าย

ประหยัดน้ำประปา

คู่กับบิลค่าไฟคือ ค่าน้ำประปา แม้จะจ่ายน้อยกว่าค่าไฟมาก แต่ฤดูร้อนอย่างนี้ ร่วมกับสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ที่ทางการแพทย์รณรงค์ให้คนอาบน้ำสระผมทุกครั้งเมื่อกลับถึงบ้าน อาจทำให้ทุกคนต้องอาบน้ำหลายครั้งขึ้นต่อวัน ฉะนั้นรู้จักวิธีประหยัดและใช้น้ำอย่างคุ้มค่า เพื่อลดค่าใช้จ่ายและมีน้ำไว้ใช้ตลอดภัยแล้ง

เป็นสาระน่ารู้จาก การประปานครหลวง (กปน.) ที่แนะนำการอาบน้ำด้วยฝักบัว เป็นวิธีสิ้นเปลืองน้อยที่สุด หากรูฝักบัวยิ่งเล็ก ยิ่งประหยัดน้ำ ส่วนเมื่อต้องแปรงฟัน โกนหนวด ระหว่างกิจกรรมที่ยังไม่ใช้น้ำ ให้ปิดแล้วค่อยเปิดใหม่ หรือรองน้ำใส่แก้ว เพื่อแปรงฟัน หรือล้างที่โกนหนวด ก็จะประหยัดกว่าการเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านปริมาณมาก

ส่วนการล้างภาชนะอาหาร ก็สามารถประหยัดน้ำได้ เพียงใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรกเสียก่อน ในสถานการณ์ปกติจะแนะนำให้นำไปล้างรวมในอ่างน้ำ แต่ในสถานการณ์นี้ให้ล้างแยกไปก่อน อาจประหยัดน้อยลง แต่ปลอดภัยแน่นอน รวมถึงการล้างทำความสะอาดพื้น ใช้ภาชนะรองน้ำและซักล้างอุปกรณ์ อาจผสมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ จะประหยัดกว่าใช้สายยางฉีดพื้นโดยตรง

ประหยัดอินเตอร์เน็ตมือถือ

ไม่ว่าจะเวิร์กฟรอมโฮม หรือเรียนออนไลน์ ต่างก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ตทั้งนั้น ในการเชื่อมต่อพูดคุย ประสานงาน ประชุม รับส่งงาน ส่งข้อมูล ตลอดจนเพลิดเพลินผ่อนคลายบนโลกออนไลน์ในเวลาส่วนตัว

จึงเป็นช่วงที่ใช้อินเตอร์เน็ตหนักมาก หลายคนสมัครบริการอินเตอร์เน็ตบ้านไว้ คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ เพราะใช้ได้ไม่จำกัด แต่กับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมือถือ ที่หลายคนใช้แพคเกจจำกัดปริมาณและความเร็ว คงต้องรู้และปรับตัว ก่อนจะใช้เกินแล้วติด FUP (Fair Usage Policy) หรือ นโยบายการใช้งานดาต้า ทำให้ความเร็วอินเตอร์เน็ตมือถือลดลงอย่างมาก จนต้องเสียเงินเพิ่ม เพื่อให้กลับมาเร็วเหมือนเดิม

เริ่มที่ระบบไอโอเอส ปิดเน็ตรั่วอัตโนมัติ ด้วยการปิดฟีเจอร์ช่วยเหลือไวไฟ (WiFi Assist) เพื่อไม่ให้ระบบเปลี่ยนจากไวไฟไปใช้เซลลูลาร์ดาต้าอัตโนมัติ ในระบบไอโอเอส โดยเข้าไปที่ตั้งค่าเซลลูลาร์ดาต้า ก่อนเลื่อนไปล่างสุดเพื่อปิด ก่อนเลื่อนขึ้นมาเพื่อไล่ปิดใช้งานเซลลูลาร์ดาต้าในแอพพ์ที่ไม่จำเป็น และปิดการอัพเดตแอพพ์อัตโนมัติ

ส่วนชาวแอนดรอยด์ มีระบบแจ้งเตือนปริมาณใช้งานอินเตอร์เน็ตใกล้เต็มได้ เพียงเข้าไปตั้งค่าใน data warning แล้วตั้งค่าปริมาณอินเตอร์เน็ตมือถือตามแพคเกจที่สมัครไว้ และรอบบิลของเดือน เพื่อให้ระบบแจ้งและตัดการใช้งานได้เมื่อใช้ครบ

ในแอพพ์ต่างๆ ก็มีฟีเจอร์ให้ประหยัดอินเตอร์เน็ตได้ เริ่มที่แอพพ์ที่คนไทยใช้มาก เฟซบุ๊กสามารถประหยัดได้โดยการปิดเล่นวิดีโออัตโนมัติ เข้าไปที่ตั้งค่า เลือกเมนูวิดีโอและรูปภาพ เล่นอัตโนมัติ ไม่ต้องเล่นวิดีโออัตโนมัติ

ส่วนยูทูบ ก็ประหยัดได้โดยเข้าไปที่ตั้งค่า ข้อมูลโมไบล์ และลดความละเอียดวิดีโอ เมื่อเราเลือกเปิดแล้ว เวลาเราดูคลิปในยูทูบผ่านเซลลูลาร์ดาต้า ระบบจะสตรีมวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 480p เท่านั้น ถือว่าประหยัดไปได้มาก แต่อย่างไรก็ตาม การประหยัดอีกอย่างคือ การลดละใช้งานแอพพ์ที่ไม่จำเป็นบ้าง นอกจากจะประหยัดเซลลูลาร์ดาต้าแล้ว ยังทำให้มีสมาธิทำงานมากขึ้นอีกด้วย

ล่าสุดหายห่วงไปได้มาก เพราะสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เปิดให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมือถือทุกค่าย กดรับบริการเพิ่มอินเตอร์เน็ตมือถือฟรี 10 GB จำนวน 30 วัน เริ่มแล้ววันนี้ถึง 30 เมษายน เพียงกด 170 ตามด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ปิดท้ายด้วยเครื่องหมาย# และโทรออก รอเอสเอ็มเอสใช้ได้ทันที และเพิ่มความเร็วอินเตอร์เน็ตบ้าน 100 Mbps ให้ประชาชน 1.2 ล้านครัวเรือนฟรี