TUเล็งจ่ายปันผลเพิ่ม จัด6พันล้านอัพแกร่ง

#TU #ทันหุ้น – TU เล็งศึกษาเรื่องการจ่ายปันผลเพิ่มเป็น 60% จากนโยบายปัจจุบันจ่ายอยู่ในอัตรา 50% หลังธุรกิจแกร่ง-ต้นทุนการเงินลดฮวบ คาดชัดเจนปีหน้า พร้อมควักงบ 6 พันล้านบาท อัพแกร่ง-รีโนเวตไลน์ผลิต แถมวางหมากปี 2566 รายได้ทะยาน 5% อานิสงส์ธุรกิจทุกไลน์สดใส
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณาเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นของ TU ในงวดสิ้นปี 2565 ให้มากขึ้น จากเดิมที่จ่ายเฉลี่ยกว่า 50% (นโยบายการจ่ายปันผลของบริษัทอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 50%) โดยคาดอาจจะมีโอกาสได้เห็นการจ่ายปันผลสูงถึง 60%
หลังแนวโน้มอัตราส่วนหนี้ต่อทุน (D/E) ปรับตัวลดลง ผลมาจากทางบริษัทบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC (บริษัทย่อยของ TU) มีแนวทางนำเงินที่ได้จากการระดมทุนผ่านการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) ไปชำระคืนหนี้ค่อนข้างมาก ประกอบกับธุรกิจไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่หลังจากนี้
*ทุ่ม 6 พันล.อัพแกร่ง
โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามที่วางไว้น่าจะช่วยให้ตัวเลข D/E จากเดิม 1.13 เท่า ลดลงเหลือ 0.6 เท่า หรือคิดเป็นตัวเลขที่ลดลงประมาณ 40% (ภายหลังการ ITC เข้าจดทะเบียนเสร็จสิ้น) ตลอดจนสนับสนุนให้ภาระการจ่ายดอกเบี้ยลดลงในทิศทางเดียวกัน นอกเหนือจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง คาดได้ความชัดเจนปีหน้า
ขณะที่งบลงทุนปีหน้าทาง TU วางไว้ราว 6 พันล้านบาท แบ่งเป็น ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการปรับปรุง (รีโนเวต โรงงานและเครื่องจักรในการผลิตต่างๆ และที่เหลือใช้พัฒนาโครงการต่อเนื่อง อาทิ โรงงานผลิตคอลลาเจน หวังเสริมความแข็งแกร่งและสนับสนุนการเติบโตในอนาคตอีกทางหนึ่ง
*ปี 66 รายได้พุ่ง 5%
สำหรับผลประกอบการปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน เนื่องจากธุรกิจทั้งในกลุ่มอาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็งขยายตัว ประกอบธุรกิจอาหารสัตว์ของ ITC เติบโตยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีธุรกิจใหม่ อาทิ คอลลาเจน เข้ามาเสริม ประกอบธุรกิจมีการทำตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติม ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัท King Oscar AS ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TU ถือหุ้น 100% ในประเทศนอร์เวย์ ได้เข้าถือหุ้นในอัตรา 50% ในบริษัท อีเจียร์ ซีฟู้ด จำกัด (อีเจียร์) ซึ่งเป็นผู้นําการผลิตตับปลาคอดจากประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อเสริมสร้างการสร้างการเติบโตทางธุรกิจผลิตตับปลาคอดให้กับแบรนด์ต่างๆ ของไทยยูเนี่ยน อาทิ แบรนด์คิง ออสการ์ และรูเก้น ฟิช รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้าตามคําสั่งของลูกค้า
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 134,100,000 โครนาไอซ์แลนด์ หรือประมาณ 33.5 ล้านบาท โครงสร้างผู้ถือหุ้น 50% - King Oscar AS ส่วน 50% - Rekstrarkaup EHF ส่วนแหล่งเงินทุน มาเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท
*สตอรี่เด่นเป้า 20 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" หุ้น TU ให้ราคาเป้าหมาย20.00 บาท เพราะคาดผลประกอบการในไตรมาส 4/2565 จะเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน ผลจากเงินบาทอ่อนค่าและมีการปรับขึ้นราคาขาย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นมาที่ 18.15% นอกจากนี้ในธันวาคม2565 บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TU จะเสนอขายหุ้นไอพีโอ และเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นปัจจัยบวกหนุนTU ในอนาคตด้วย