รีเซต

แบงก์รัฐเปิดมาตรการใหญ่ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย–กัมพูชา

แบงก์รัฐเปิดมาตรการใหญ่ ช่วยผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย–กัมพูชา
TNN ช่อง16
25 กรกฎาคม 2568 ( 14:50 )
26

ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ลุกลามจากข้อพิพาททางทหารสู่ผลกระทบในระดับชุมชน รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยมอบหมายให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทุกแห่ง จัดทำแพ็กเกจทางการเงินแบบครบวงจร เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านชีวิตความเป็นอยู่ การทำมาหากิน และทรัพย์สิน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังเหตุปะทะบริเวณชายแดนได้ส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจในหลายจังหวัดชายแดน รัฐบาลจึงเร่งวางมาตรการทางการเงินที่ครอบคลุมและเข้าถึงได้จริง โดยมีทั้งการพักชำระหนี้ การปล่อยสินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำ และการช่วยเหลือฟื้นฟูทรัพย์สินที่เสียหาย


ธนาคารออมสิน ดอกเบี้ยต่ำ–พักหนี้–ฟื้นฟูอาชีพ

ธนาคารออมสินจัด 3 ชุดมาตรการหลัก ครอบคลุมทั้งการพักชำระเงินต้นถึงสิ้นปี 2568 และสินเชื่อพิเศษเพื่อประชาชนรายย่อย ดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.60% ต่อเดือน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ยังสามารถเข้าถึงวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท พร้อมสิทธิประโยชน์ยกเว้นค่าธรรมเนียมหลายรายการ

ธ.ก.ส. ช่วยเกษตรกรเข้าถึงทุนฉุกเฉิน

ในภาคการเกษตร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จัดโครงการสินเชื่อฉุกเฉินวงเงิน 50,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น พร้อมโครงการสินเชื่อฟื้นฟูบ้านเรือนและเครื่องมือการเกษตร วงเงินสูงสุด 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษ

ธอส. ฟื้นฟูบ้าน–เยียวยาผู้เสียหาย

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เตรียมวงเงิน 200 ล้านบาท ช่วยลูกค้าในพื้นที่เป้าหมาย โดยผู้กู้ที่บาดเจ็บสาหัสหรือที่อยู่อาศัยเสียหายจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.01% ต่อปี สูงสุดตลอดอายุสัญญา พร้อมทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านใหม่แทนหลังเดิมที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์

ธพว. เติมทุน SME ให้ไปต่อ

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.) วางมาตรการ "พัก ลด ขยาย เติม" ครอบคลุมทั้งการพักชำระเงินต้น ลดค่างวด ขยายเวลาชำระ และเติมทุนด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นที่ 2.99% ต่อปี เพื่อช่วยผู้ประกอบการ SME ฟื้นฟูกิจการ

EXIM BANK หนุนส่งออก–ลดดอกเบี้ย–เพิ่มวงเงิน

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จัดมาตรการลดดอกเบี้ยสูงสุด 20% พร้อมขยายเวลาชำระหนี้สูงสุด 365 วัน และเพิ่มวงเงินชั่วคราวสูงสุด 30% เสริมด้วยเครื่องมือการเงินพิเศษสำหรับผู้ส่งออก อาทิ Export Booster และประกันการส่งออก EXIM Safe Trade

ไอแบงก์ พักชำระ–ฟื้นฟูที่อยู่อาศัย

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) เดินหน้าโครงการ “ไอแบงก์เราไม่ทิ้งกัน” โดยมีการพักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน และสินเชื่อฟื้นฟูที่อยู่อาศัยและธุรกิจ วงเงินสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อราย อัตรากำไรเริ่มต้นเพียง 1.99%

บสย. ค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย–SMEs

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิด 3 มาตรการสำคัญ ได้แก่ การพักชำระค่างวด 3 เดือน การผ่อนผันค่าธรรมเนียมค้ำประกัน และโครงการ “บสย. SMEs ยั่งยืน” ที่สนับสนุนทั้งรายย่อยและ SMEs วงเงินค้ำประกันสูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย



 

ช่องทางติดต่อ–ขอรับความช่วยเหลือ

ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจในพื้นที่ หรือผ่านเว็บไซต์ของแต่ละธนาคาร และหมายเลขสายด่วน เช่น

  • ธนาคารออมสิน โทร. 1115
  • ธ.ก.ส. โทร. 02-555-0555
  • ธอส. โทร. 02-645-9000
  • ธพว. โทร. 1357
  • EXIM BANK โทร. 02-169-9999
  • ไอแบงก์ โทร. 1302
  • บสย. โทร. 02-890-9999

รัฐบาลพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมหากสถานการณ์ยืดเยื้อ

นายพิชัย ระบุว่ากระทรวงการคลังจะติดตามสถานการณ์แนวชายแดนอย่างใกล้ชิด และพร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมทันทีหากพบว่ามาตรการเดิมยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ โดยตั้งเป้าช่วยประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างมั่นคง และทำให้ภาคธุรกิจเดินหน้าต่อได้ท่ามกลางภาวะไม่ปกติ

รัฐบาลเปิดแผนใหญ่ให้แบงก์รัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุชายแดนไทย–กัมพูชา ครอบคลุมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พักหนี้ ฟื้นฟูบ้านเรือน และค้ำประกันรายย่อย พร้อมติดตามสถานการณ์เพื่อปรับมาตรการต่อเนื่อง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง