พิจิตรเริ่มวิกฤต! ผู้ว่าฯสั่งขยาย รพ.สนาม เหตุป่วยพุ่ง เตียงเต็ม ชี้มาจาก กทม.-ปริมณฑล ทยอยกลับ
เริ่มวิกฤต! โรงพยาบาลสนามบึงบัวเตียงเต็มแล้ว ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งขยายโรงพยาบาลสนามที่วิทยาลัยเทคนิค หลังจากที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่เดินทางมาจากกทม.และปริมลฑลเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง วันเดียวครึ่งร้อย แจ้งความประสงค์ที่จะเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด
วันที่ 18 กรกฎาคม 2564 นายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองพิจิตร และนายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่บริเวณศูนย์ประชุมวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร เพื่อติดตามการจัดสร้างโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 2 ของอำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นสถานที่รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ โดยโรงพยาบาลสนามดังกล่าวสามารถรองรับผู้ป่วยได้ไม่น้อยกว่า 150 – 200 เตียง หลังจากโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ซึ่งอยู่ภายในอุทยานบัว ในบึงสีไฟ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซึ่งรองรับผู้ติดเชื้อได้เพียงจำนวน 140 เตียง มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ใช้บริการไปจนเต็มทุกเตียง และไม่สามารถขยายเพิ่มเติมได้ เนื่องจาก มีกลุ่มผู้ใช้แรงงานในจังหวัดต่างๆ แต่มีภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดพิจิตร โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและเข้มงวดสูงสุด ทยอยเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยังไม่มีเตียง หรือสถานพยาบาลรับรักษา จึงทำให้แรงงานดังกล่าวเลือกที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อมารักษาตัวในภูมิลำเนาเกิด
สำหรับโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 นี้จะมีการแบ่งแยกเป็นโซนๆ รวมถึงแบ่งเป็นผู้ติดเชื้อชายและหญิง ไม่ให้ปะปนกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น สำหรับวันนี้ได้รับการสนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องมือ และคนงานจากเทศบาลเมืองพิจิตร วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองพิจิตร ทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ และประกอบเตียงกระดาษ รวมทั้งอื่นๆเพื่อให้พร้อมเปิดรับผู้ป่วยรายใหม่ในสัปดาห์หน้านี้
นอกจากนี้ในส่วน อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ขณะนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิดซึ่งเดินทางจากพื้นที่สีแดงซึ่ง เป็น กทม. และปริมลฑล ยังทยอยเดินทาง กลับมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ต้องเร่งช่วยกัน นำไม้อัด มาประกอบ เพื่อแบ่งกั้นพื้นที่ภายในอาคารหอประชุม ที่ว่าการอำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร หลังจากที่ โรงพยาบาลสนามเดิม ที่ใช้เต็นท์มากางแล้วติดแอร์ จำนวน 2 แห่ง จำนวน 23 เตียง เต็มหมดแล้ว ประกอบกับการเช่าเต็นท์จากภาคเอกชน พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องปรับอากาศมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทางอำเภอจึงต้องปรับเปลี่ยนมาใช้พื้นที่ในหอประชุมแทน โดยมีการกั้นพื้นที่บริเวณเป็นสัดส่วน ห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปด้านใน
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เผย ยอมรับว่าจังหวัดพิจิตร มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่เดินทางจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง ติดต่อขอเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ จึงทำให้เตียงตามโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามเต็ม จึงต้องมีการขยายโรงพยาบาลสนามในพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตรเพิ่มเติมขึ้นอีก 1 แห่ง เป็นแห่งที่สองเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ตลอดจนสั่งการให้ขยายโรงพยาบาลสนาม อีก 11 อำเภอกำลังเร่งสร้างโรงพยาบาลสนาม อีก 800 เตียง โดยคาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จและเปิดใช้ได้ในสัปดาห์หน้า สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยรายใหม่ของจังหวัดพิจิตรเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วันละ 60-70 คน
โดยล่าสุด พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 32 ราย มีผู้ป่วยยืนยันสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 ถึงปัจจุบัน รวม 621 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนาม 429 ราย หายป่วยแล้ว 156 ราย
ด้าน นายวิริยะ จันทร์ประเสริฐ รองสาธารณสุขอำเภอสากเหล็ก กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามแห่งใหม่นี้จะสามารถติดตั้งเตียงรักษาผู้ป่วยในระยะสีเขียว ได้ จำนวน 60 เตียง โดยในขณะนี้ก็มีผู้ที่แจ้งความประสงค์ที่จะขอเข้ามาทำการรักษาตัว ในโรงพยาบาลสนามอำเภอสากเหล็กที่กำลังสร้างแล้วถึง 20 กว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่ จะเป็นชาวอำเภอสากเหล็กที่เดินทางไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพ และอยู่ระหว่างรอเตียง ซึ่งโรงพยาบาลสนาม ของอำเภอสากเหล็ก มีจำนวน 2 แห่งก็เต็มแล้วทั้ง 23 เตียง โดยหากอนาคต มีผู้ป่วยมากขึ้นก็อาจจะต้องหาสถานที่เพื่อขยายเตียง ต่อไปให้มากขึ้น