ชาวเน็ตเกาหลีรวมกลุ่มป้องกันตนเอง ตั้งทีมสืบคดีออนไลน์ ตีแผ่แก๊งอาชญากรในกัมพูชา

สถานการณ์อาชญากรรมรุนแรงและความหวาดวิตกของชาวเกาหลี
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ชาวเกาหลีที่อาศัยและเดินทางไปกัมพูชาเผชิญความเสี่ยงจากอาชญากรรมรุนแรงเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะในกรุงพนมเปญและเมืองท่าตอนใต้ของประเทศอย่างเมืองสีหนุวิลล์ เหตุการณ์ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย และทรมานผู้เสียหายถึงขั้นเสียชีวิต ทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างแสนสาหัสในชุมชนชาวเกาหลี
ความล่าช้าในการตอบสนองจากทั้งตำรวจกัมพูชา และ รัฐบาลเกาหลีใต้ ทำให้พลเมืองต้องหาวิธีรับมือด้วยตนเอง โดยเฉพาะการติดตามข่าวสารและประสานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยและเหยื่อผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์
นักสืบออนไลน์รวมตัว : กลุ่มป้องกันตนเอง และ War on Crime 2
เพื่อสร้างความปลอดภัย และ เฝ้าระวังเหตุร้ายในภาคประชาชน ชาวเน็ตเกาหลีได้จัดตั้ง "กลุ่มป้องกันตนเอง" ขึ้น โดยใช้แพลตฟอร์ม Telegram และ YouTube เป็นเครื่องมือหลักในการติดตามผู้ต้องสงสัย ถ่ายทอดข้อมูลและพยานหลักฐานเกี่ยวกับเหยื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ได้รับคำชื่นชมจากผู้ติดตามว่า "พวกเขาดีกว่าหน่วยงานสืบสวนเสียอีก"
War on Crime 2 : คลังหลักฐานชิ้นสำคัญ
ตัวอย่างที่โดดเด่นคือช่อง Telegram "War on Crime 2" ซึ่งอุทิศให้กับการรายงานอาชญากรรม ช่องนี้ได้เปิดเผยหลักฐานสำคัญหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป้น การเปิดโปงคดีฆาตกรรมนักศึกษา โดยช่องนี้ได้เผยแพร่วิดีโอจากเดือนสิงหาคมที่แสดงให้เห็นนักศึกษาชาวเกาหลีที่ระบุตัวตนว่า นาย A ถูกทรมานและเสียชีวิตขณะถูกคุมขังในอาคารอาชญากรรมบนภูเขาบกอร์ จังหวัดกำปอด วิดีโอดังกล่าวมีฉากที่ผู้ต้องสงสัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนบังคับให้นาย A เสพยาเสพติด
ผู้ดูแลช่องระบุว่า วิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายอย่างลับๆ โดยเหยื่อชาวเกาหลีอีกรายที่ถูกคุมขังด้วยกัน ซึ่งแม้ว่าผู้ต้องสงสัยจะลบภาพไปแล้ว แต่เหยื่อรายนี้สามารถกู้คืนวิดีโอได้หลังจากหลบหนี และ นำโทรศัพท์กลับมา จากนั้นจึงส่งมอบให้เรา นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่ไฟล์เสียงบันทึกและเอกสารสำคัญ เช่น สำเนาหนังสือเดินทางและรายละเอียดบัญชีธนาคาร ของผู้ต้องสงสัยชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้
ขุดเบาะแสผ่าน Telegram โยงถึงอาชญากรรมระดับประเทศ
ช่อง Telegram ดังกล่าวยังชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่น่าตกใจ โดยพบหลักฐานว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยชาวจีนที่หลบหนีคดีฆาตกรรมนาย A เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง "Gangnam Drug Drink Case" ที่เกิดขึ้นในกรุงโซลปี 2023 ซึ่งนักเรียนถูกล่อลวงให้ดื่มเครื่องดื่มผสมยาเสพติดในย่านการศึกษาแทชีดง หน่วยงานตำรวจประจำจังหวัดคยองบุก ซึ่งกำลังสอบสวนคดีนี้ ยืนยันว่า "เราได้รับและกำลังวิเคราะห์วิดีโอที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงภาพการบังคับเสพยาเสพติด จากผู้ดูแลช่อง Telegram แล้ว”
ยูทูบเบอร์ลงพื้นที่ลุยเองพิสูจน์ให้เห็นกับตา “กัมพูชาเต็มไปด้วยอาชญากรรมจริงไหม”
เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกับตากลุ่มป้องกันตนเอง ยูทูบเบอร์บางรายได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่จริงในกรุงพนมเปญและเมืองสีหนุวิลล์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอาคารอาชญากรรมหนาแน่น พร้อมเผยแพร่วิดีโอที่ให้ข้อมูลเชิงลึก โดยตั้งชื่อว่า "สถานะปัจจุบันของเมืองอาชญากรรมในกัมพูชาที่ชาวเกาหลีถูกลักพาตัวและหายตัวไป " หรือ "พื้นที่ชนบทของกัมพูชาที่ล่มสลายเนื่องจากการฟอกเงินและการพัฒนาจากจีน" ซึ่งหัวข้อเหล่านี้กระตุ้นความสนใจให้ชุมชนออนไลน์ในเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี
ปรากฏการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความไม่นิ่งนอนใจต่อชะตากรรมของเพื่อนร่วมชาติที่ต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ การออกมาเคลื่อนไหวของพลเมืองเหล่านี้กลายเป็นอาวุธทางข้อมูล ซึ่งอาจชี้นำเบาะแสสำคัญ และ นำไปสู่การทลายเครือข่ายอาชญากรรมระดับโลกที่สร้างปัญหาอยู่ในขณะนี้
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
