‘ททท.’ รับกำลังซื้อในประเทศน่าห่วง เล็งจัด “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซล” คาดสร้างเงินสะพัด 1,500 ลบ.
‘ททท.’ รับกำลังซื้อในประเทศน่าห่วง เล็งจัด “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซล” คาดสร้างเงินสะพัด 1,500 ลบ.
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้จัดโครงการ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์ เซล 2020 ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม-15 กันยายน 2563 เป็นเวลา 2 เดือน ภายใต้แนวคิด Non Stop Shopping ใน 5 พื้นที่คือกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ และพัทยา รวมผู้ประกอบการกว่า 10,000 รายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่พำนักในไทย พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้ง โดยคาดว่าจะสามารถสร้างเม็ดเงินสะพัดได้กว่า 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ทำได้ 1,400 ล้านบาท แม้จะกังวลในส่วนของกำลังซื้อของตลาดในประเทศบ้างก็ตาม
“อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แกรนด์เซลปีนี้ ททท.ได้ปรับรูปแบบให้มีความตื่นเต้นมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา ไทยแลนด์ แกรนด์เซล มักจะเน้นไปที่การกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ครั้งนี้จะเน้นไปที่การจับจ่ายใช้สอยของคนไทยเป็นหลัก แม้จะยอมรับว่าภาพรวมกำลังซื้อของตลาดคนไทยขณะนี้ จะค่อนข้างน่าเป็นห่วง เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่าแคมเปญนี้จะมีผู้ประกอบการค้าปลีกลดราคาสินค้า เพื่อชิงกำลังซื้อจากลูกค้าหลากหลายกลุ่ม จึงเชื่อว่าจะสามารถดึงดูดการใช้จ่ายได้มากขึ้น โดยจะเน้นไปที่การกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวที่นิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศกว่า 12-13 ล้านคน กลับมาใช้จ่ายในประเทศไทยแทน เพราะไม่สามารถออกเดินทางไปท่องเที่ยว และใช้จ่ายในต่างประเทศได้” นายยุทธศักดิ์กล่าว
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยแคมเปญ 8.8 (วันที่ 8 เดือน 8) จัดกิจกรรมร่วมสนุกตอบคำถามออนไลน์แจกบัตรกำนัลของขวัญ จำนวน 4,100 รางวัล รวมมูลค่า 6.6 แสนบาท และแคมเปญ 9.9 (วันที่ 1-9 เดือน 9) จัดกิจกรรมเล่นเกมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ Amazing Thailand Grand Sale 2020 แจกบัตรกำนัลของขวัญจำนวน 20 รางวัล รวมมูลค่า 1 แสนบาท นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าและบริการจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้สิทธิลุ้นรับรางวัลหลังเสร็จสิ้นโครงการฯ อาทิ รถยนต์ แพ็คเกจท่องเที่ยว อุปกรณ์สื่อสารทันสมัย และอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทด้วย
นายยุทธศักดิ์กล่าวว่า สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ททท.ได้จัดเตรียมแผนฟื้นฟูตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจะเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงหลังหมดโควิด-19 เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริปที่มาเที่ยวไทยมากขึ้น ผ่านแนวคิด 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ ไทยแลนด์, เมดิคัล แอนด์ เวลเนส รีสอร์ท ออฟ เดอะ เวิลด์ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางเพื่อการแพทย์และสุขภาพ หลังประเทศไทยสามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และซัพพลายเชนในตลาดนี้มีค่อนข้างมาก และ 2.โครงการ ไทยแลนด์, เวิลด์ ชอปปิง พาราไดซ์ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการค้าปลีกและท่องเที่ยว ตั้งเป้าหมายผลักดันประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งหลังสามารถควบคุมโควิด-19 ได้อย่างแท้จริงแล้ว