รีเซต

แต่งตั้งใหญ่ตำรวจปี 2568 เปิดทางปฏิรูป หรือรักษาสถานะเดิม?

แต่งตั้งใหญ่ตำรวจปี 2568 เปิดทางปฏิรูป หรือรักษาสถานะเดิม?
TNN ช่อง16
28 สิงหาคม 2568 ( 09:53 )
7

วันนี้ (28 สิงหาคม 2568) การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กลายเป็นจุดสนใจสำคัญของสังคมไทย เนื่องจากเป็นวาระแต่งตั้งนายพลตำรวจระดับสูงประจำปี โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมครั้งแรก นับเป็นการมีส่วนร่วมของฝ่ายการเมืองโดยตรงในขั้นตอนที่กำหนดทิศทางองค์กรตำรวจ

การประชุมครั้งนี้เป็นการต่อเนื่องจากการกลั่นกรองบัญชีแต่งตั้งนายพลที่คณะกรรมการระดับ ตร. พิจารณาไว้เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้จัดทำบัญชีเสนอเข้าสู่ ก.ตร. เพื่อพิจารณาอย่างเป็นทางการ โดยโครงสร้างตำแหน่งว่างในปีนี้มีจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2 ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 7 ตำแหน่ง ผู้บัญชาการ 16 ตำแหน่ง ไปจนถึงผู้บังคับการกว่า 70 ตำแหน่ง

หนึ่งในตำแหน่งที่ถูกจับตาคือ รอง ผบ.ตร. เนื่องจาก พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข เกษียณอายุราชการ ทำให้ต้องมีการเลื่อนระดับจากผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นมาแทน โดยชื่อของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ซึ่งมีอาวุโสลำดับ 1 ได้รับการเสนอขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร. เขาเป็นนายตำรวจที่ผ่านเส้นทางงานสอบสวน งานปราบปราม และเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก่อนจะขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และมีอายุราชการยาวไปถึงปี 2576 จึงถูกมองว่าอาจเป็นแคนดิเดต ผบ.ตร. ในอนาคต

อีกตำแหน่งสำคัญคือ จเรตำรวจแห่งชาติ ที่เสนอชื่อ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง จตช. ขึ้นดำรงตำแหน่ง แม้เขาจะอยู่ในลำดับอาวุโสที่ 3 แต่กลับได้รับการพิจารณาเหนือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่เป็นลำดับ 2 เนื่องจากโสภณรัชต์ถูกแพทยสภามีคำวินิจฉัยเรื่องความบกพร่องทางจริยธรรม กรณีการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 เช่นเดียวกับ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ที่ไม่ได้รับการพิจารณาเช่นกัน

เมื่อพิจารณาจากกรณีดังกล่าว จึงเห็นได้ว่ากระบวนการแต่งตั้งครั้งนี้มิได้ยึดตามลำดับอาวุโสเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงประเด็นด้านจริยธรรมและผลทางสังคมด้วย อย่างไรก็ตาม การข้ามลำดับเช่นนี้ก็อาจก่อให้เกิดคำถามเรื่องความโปร่งใสและความเป็นธรรม ซึ่งนายภูมิธรรมในฐานะประธาน ก.ตร. ได้ย้ำว่าจะพิจารณาทุกกรณีอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นขององค์กร

นอกจากระดับรอง ผบ.ตร. และ จตช. แล้ว การแต่งตั้งยังครอบคลุมไปถึงผู้ช่วย ผบ.ตร. อีก 7 ตำแหน่ง ที่ถูกเสนอชื่อเรียงตามอาวุโส อาทิ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช และพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ขณะที่ระดับผู้บัญชาการก็มีความเคลื่อนไหวสำคัญ เช่น การคาดการณ์ว่า พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย จะขึ้นเป็น ผบช.ก. ซึ่งเป็นตำแหน่งด้านงานสืบสวนสอบสวนที่มีความสำคัญอย่างมาก

เมื่อมองในภาพรวม การประชุม ก.ตร. ครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการแต่งตั้งตามวาระประจำปี แต่ยังสะท้อนการจัดสมดุลอำนาจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และการเตรียมบุคลากรสำหรับตำแหน่งสูงสุดในอนาคต โดยเฉพาะการที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ จะเกษียณในปีหน้า ทำให้การวางตัวบุคคลในวันนี้มีผลต่อทิศทางองค์กรในอีกหลายปีข้างหน้า

คำถามที่ยังคงอยู่คือ การแต่งตั้งครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จริงหรือไม่ และการมีส่วนร่วมของฝ่ายการเมืองในกระบวนการครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเป็นธรรม หรือกลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงกดดันและข้อถกเถียงมากขึ้นในอนาคต?

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง